‘ซีคอนโฮม’ คาดยอดขายรับสร้างบ้านเติบโต 5%
ผู้บริหารซีคอนโฮม ประเมินตลาดรับสร้างบ้านปี 63 ยังเติบโต แม้จะได้รับอานิสงส์จากแคมเปญกระตุ้นการฟื้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งทีมศึกษาขยายสาขาจังหวัดชลบุรี ระยอง รับอีอีซี บูม เผยวางเป้าขายทั้งปี 1,600 ลบ.เติบโต 5%
นายมนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีคอน โฮม บริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพ เปิดเผยว่า ผลของนโยบายการส่งเสริมและกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่ได้ครอบคลุมลงมาถึงธุรกิจสร้างบ้าน ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังซื้อลดลง ตลาดรับสร้างบ้านยังมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง ทั้งจากเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน เชื้อไวรัสที่มีผลต่อภาคการท่องเที่ยวไปทั่วโลกและกระทบถึงในไทย แต่ตลาดรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบไม่มาก เนื่องจากเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่มีกำลังเฉพาะกลุ่ม แต่ขนาดของรับสร้างบ้านมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 12,000 ล้านบาท เปรียบได้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ก็ว่าได้
ในเรื่องของแผนธุรกิจและการตลาดในปี 2563 บริษัทซีคอนโฮม จะมุ่งเน้นแบรนด์ซีคอนโฮมเป็นหลัก เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำตลาดได้อย่างเต็มที่ โดยเรากำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการขยายสาขา รองรับการเติบโตของรับสร้างบ้านในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เช่น จังหวังชลบุรี เนื่องจากเศรษฐกิจภายในจังหวัดค่อนข้างดี แต่ถ้ารออีอีซีบูม อาจจะทำให้เสียโอกาสได้
“มีการลงทุนทีมลงไปดูพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่อีอีซี เช่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา รวมถึงระยอง เนื่องจากมีการเติบโตดี มีความพร้อมในหลายด้าน เช่น นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ มีกำลังซื้อสูง แต่การไปเปิดสาขาของซีคอนฯ ต้องสร้างความต่อเนื่องในการทำตลาด เพราะการขนส่งเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างต่างๆ เป็นต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์” นายมนูกล่าว ปัจจุบัน ซีคอน 4 สาขา ได้แก่ สาขาบางแค สาขารามอินทรา และอีก 2 สาขา งามวงศ์วาน และศรีนครินทร์ จะเป็นสาขาที่โชว์บ้านตัวอย่างให้ลูกค้าได้เห็น
ในส่วนของเป้าการขายในปีนี้ เบื้องต้นวางตัวเลขไว้ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโตประมาณ 5% เป็นการประเมินจากภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งช่วงเดือนมกราคมตลาดรับสร้างบ้านยังซบเซาอยู่ ขณะที่ในปีที่ผ่านมา บริษัทซีคอนฯ มียอดขายเกือบ 1,600 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 4.7-4.8 ล้านบาท ตลาดกลุ่มใหญ่ที่มีความต้องการปลูกสร้างบ้าน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความสามารถในการสร้างและส่งมอบบ้านให้แก่ลูกค้าได้ เนื่องจากมีการใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปเข้ามาเสริมในกระบวนการสร้างบ้าน ซึ่งปัจจุบันโรงงานที่ให้บริการเรื่องระบบสำเร็จรูปมีกำลังการผลิตป้อนเพิ่มได้30%.