“บิ๊กตู่” จับจริงพ่อค้าโกงราคาหน้ากากอนามัย
“บิ๊กตู่” เข้มดำเนินการเอาผิดผู้สร้างความปั่นป่วนราคาหน้ากากอนามัย มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ล่าสุดเชือดแล้ว 8 ราย
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งแก้ปัญหากรณีมีการกักตุนหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ราคาในท้องตลาดสูงกว่าความเป็นจริงสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ จากการรายงานของกรมการค้าภายใน ได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดแล้วจำนวน 8 ราย โดยได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินความผิดเกี่ยวกับการสร้างความปั่นป่วนในราคาขายให้สูงกว่าความเป็นจริง ในมาตรา 29 ของ พรบ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีในพื้นที่ต่างจังหวัด นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเป็นกรณีเร่งด่วน ให้พาณิชย์จังหวัด ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้มีพฤติกรรมปั่นป่วนราคาขายตามที่มีการร้องเรียน และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดและจริงจัง หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดดังกล่าว ขอให้แจ้งสายด่วน 1569 ซึ่งจะมีคณะเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ไปตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดในทันที
สำหรับ สถานที่ซื้อหน้าการอนามัยนอกจากร้านค้าทั่วไปแล้ว ประชาชนสามารถหาซื้อได้ตามส่วนราชการ ต่างๆ ที่มีการจัดจำหน่าย อาทิ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะเริ่มจำหน่ายในวันเสาร์ที่ 8 กก.พ. 2563 ณ ลานเอนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป และจะกระจายไปทุกอำเภอทั่วประเทศผ่านร้านธงฟ้าลดค่าครองชีพ ในราคา 2.50 – 5 บาท/ชิ้น ตามคุณภาพ โดยจะทยอยส่งให้ครบตามเป้าหมายภายในเดือนก.พ.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย หลังจากไข้หวัดไวรัสโคโรนาระบาด ประกอบกับหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประสบปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 มีปริมาณสูง ทำให้หน้ากากอนามัย ขาดแคลนไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้าทั่วไป และหากสามารถหาซื้อได้ก็มีราคาแพงทำให้ประชาชนร้องเรียนกระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาลให้ช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง.