สมคิด มอบ บีโอไอ เร่งส่งเสริม 4 กลุ่ม SME
สมคิด ปลื้ม ผลงานบีโอไอ ปี 62 เงินลงทุนทะลุเป้า และเร่งออกมาตรการส่งเสริม ธุรกิจ SME 4 กลุ่มหลัก ท่องเที่ยวบริการ ,ครีเอทีฟ อีโคโนมี , BCG และ ลงทุนเศรษฐกิจฐานราก ภายในปีนี้ เพื่อรองรับการจ้างงานในอนาคต
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบนโยบาย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า บีโอไอได้รายงานสถานการณ์การลงทุนในปี 2562 มีนักลงทุนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจำนวน 1,624 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 756,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 750,000 ล้านบาท สำหรับคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) มีจำนวนทั้งสิ้น 506 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 444,880 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 59 ของมูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด โดยจังหวัดระยอง มีมูลค่าเงินลงทุนมากที่สุด ตามด้วยชลบุรีและฉะเชิงเทราตามลำดับ
ทั้งนี้ยอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายมีจำนวน 838 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 286,520 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 38 ของมูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด โดยอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุดได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เงินลงทุนรวม 80,490 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เงินลงทุนรวม 74,000 ล้านบาท และอันดับ 3 ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ เงินลงทุนรวม 40,100 ล้านบาท
และให้เน้นการส่งเสริมภาคธุรกิจ SME ใน 4 กลุ่มหลัก โดยมอบหมายให้บีโอไอ ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้เห็นผลภายในปี 2563 เพื่อรองรับการจ้างงานในอนาคต ประกอบด้วย 1.อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวและแรงงาน ซึ่งไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง โดยเน้นให้มีการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและบริการในทุกประเภท 2.อุตสาหกรรมด้านครีเอทีฟอิโคโนมี เน้นส่งเสริมด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ทั้งด้านการสร้างภาพยนตร์ แอนิเมชั่น การพัฒนาด้านดีไซน์และศิลปะ
3.อุตสาหกรรมด้านไบโออิโคโนมี เน้นการลงทุนเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และ4.อุตสาหกรรมที่เน้นการลงทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเรื่องนี้บีโอไอจะทำงานร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยหากภาคธุรกิจใดเข้าไปมีส่วนร่วม หรือมีการลงทุนใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาชุมชน ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ
“ขอชื่นชมการทำงานของบีโอไอที่สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายในปี 62 มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ 500,000ล้านบาท โดยจีนมาเป็นอันดับ 1 ที่ยื่นคำขอการลงทุนสูงสุด 260,000 แสนล้านบาท” นายสมคิด กล่าว.