คปภ.จี้จ่ายสินไหมเหยื่อรถบรรทุกเพชรบูรณ์
คปภ. เข้ม! จี้บริษัทเร่งรัดจ่ายสินไหมช่วยเหลือเยียวยาความสูญเสีย ปมกระบะเฉี่ยวชนรถบรรทุกที่เพชรบูรณ์ จนมีคนตายและผู้บาดเจ็บ เตือนบริหารความเสี่ยงด้วยการทำประกันภัย
กรณีรถตู้ส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน ฮม 5010 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนท้ายรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ หมายเลขทะเบียน 81-0766 เพชรบูรณ์ และรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 81-4671 เพชรบูรณ์ บริเวณทางหลวงหมายเลข 21 ถนนหนองไผ่ – นาเฉลียง กม.170+500 จ.เพชรบูรณ์ เป็นเหตุให้ผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวจากจังหวัดพัทลุงและคนขับรถตู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 5 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 8 ราย เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผานมา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สายกลยุทธ์องค์กร บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. จ.เพชรบูรณ์ และสำนักงาน คปภ. ภาค 2 (นครสวรรค์) ในฐานะดูแลรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ตรวจสอบการทำประกันภัย และลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
โดยรายงานเบื่องต้นพบว่า รถตู้คันดังกล่าวได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.สินมั่นคงประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 62-8-0605958-000141 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 23 พ.ค.2563 นอกจากนี้ ยังได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจประเภท 1 ไว้กับ บริษัทประกันภัยเดียวกัน กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 62-1-0-211919 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 21 มี.ค. 2563
สำหรับรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 02595-62502/กธ/9065885 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 ก.ย.2563 ในส่วนของรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัยเช่นกัน กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 02595-62502/กธ/0539784 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 ธ.ค.2563
ทั้งนี้ เบื้องต้นผู้เสียชีวิตที่โดยสารมากับรถตู้จะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 400,000 บาท จาก พ.ร.บ. 300,000 บาท สัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ (PA) 100,000 บาท ส่วนผู้ขับรถที่เสียชีวิตในเบื้องต้นจะได้รับค่าสินไหมทดแทน 135,000 บาท จาก พ.ร.บ. 35,000 บาท และจากสัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุ (PA) อีก 100,000 บาท
ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ 8 ราย แยกเป็นผู้บาดเจ็บที่เป็นผู้โดยสารรถตู้ 6 ราย จะได้รับค่ารักษาพยาบาลจาก พ.ร.บ. สูงสุดไม่เกิน 80,000 บาท นอกจากนี้ ยังได้รับค่าสินไหมทดแทนจากประกันอุบัติเหตุ (PA) ที่เป็นสัญญาแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจ 50,000 บาท รวมเป็น 130,000 บาท และผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ
โดยรถบรรทุก 6 ล้อ เบื้องต้นจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน สำหรับค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยรถยนต์นอกเหนือจากนี้ ต้องรอผลคดีจากพนักงานสอบสวนก่อนว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท และหากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ฯลฯ จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวอีกว่า สำนักงาน คปภ.จ.เพชรบูรณ์ ได้ประสานกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการจ่าย ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้บาดเจ็บและทายาทผู้เสียชีวิตโดยเร็ว นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย เป็นคนในพื้นที่จังหวัดพัทลุง โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อกับโรงพยาบาลเพชรบูรณ์เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพิกุลทอง ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง 4 ศพ และตั้งศพบำเพ็ญกุศลอีก 1 ศพ ที่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 11 ในพื้นเดียวกัน ซึ่งสำนักงาน คปภ. จ.เพชรบูรณ์ ได้ประสานงานไปยังสำนักงาน คปภ. จ.พัทลุง เพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตดังกล่าวอย่างเต็มที่
“ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสีย รวมทั้งเตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อม และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เลขาธิการ คปภ. กล่าว.