ธอส.ออกสลากระดมทุน 5 หมื่นล้าน
ธอส.เล็งออกสลากออมทรัพย์ปลายปีนี้ หวังระดมทุน 5 หมื่นล้านบาท แก้ไขปัญหาสภาพคล่องและโครงสร้างเงินฝาก พร้อมลุยสินเชื่อบ้านสำหรับคนชรา รองรับสังคมผู้สูงอายุและนวัตกรรมใหม่ๆ อีก 20-30 ปี
“ ปัญหาเรื่องสภาพคล่องและการรับฝากเงินระยะสั้นมาปล่อยกู้ระยะยาวของธอส. จะลดน้อยลง หลังจาก ครม.เห็นชอบแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่…) พ.ศ…. เพื่อขยายการธุรกรรมของธนาคารในอนาคต ” นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยและกล่าวว่า
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2560 ได้เห็นชอบแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่..) พ.ศ…. เพื่อขยายขอบเขตการทำธุรกิจและแก้ไขข้อขัดข้องในการดำเนินกิจการของ (ธอส.) เช่น การอนุญาตธนาคารสามารถจำหน่ายสลากออมทรัพย์เหมือนกับธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) การดำเนินธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงการให้บริการสินเชื่อผู้สูงอายุกรณีนำมาที่อยู่อาศัยที่จำนองกับธนาคาร หรือที่เรียกว่า Reverse Mortgage หรือ RM เป็นต้น
นายฉัตรชัย กล่าวว่า การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายของ ธอส.จะทำให้ธนาคารสามารถรองรับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 20-30 ปี โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสภาพคล่องของธนาคารที่ต้องรับเงินฝากระยะสั้น 3 เดือน 6 เดือน แต่นำไปปล่อยสินเชื่อระยะยาว 20-30 ปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงทำให้ธนาคารต้องแข่งขันระดมเงินฝากในบางครั้งเพื่อไม่ให้สภาพคล่องตรึงตัว แต่หลังจากที่ ครม.อนุมัติให้ ธอส.สามารถออกสลากออมทรัพย์ได้คาดว่า ปัญหาสภาพคล่องตรึงตัวจะลดลง เพราะสลากออมทรัพย์สามารถออกอายุ 3 ปีและ 5 ปีได้
“ หลังจาก ครม.อนุมัติให้แก้ไขกฎหมายของ ธอส.แล้ว ขั้นตอนต่อไปกระทรวงการคลังจะต้องนำร่างกฎหมายดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และหลังจากที่ สนช.เห็นชอบแล้ว และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา แล้ว กฎหมายจะมีบังคับใช้ในอีก 180 วันหรือ 6 เดือน ซึ่งคาดว่า ในช่วงปลายปีนี้ กระบวนการทำงานของธนาคารภายใต้กฎหมายใหม่ถึงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ ”
สำหรับสลากออมทรัพย์ของ ธอส.ที่จะออกในครั้งแรก คาดว่าจะมีวงเงินประมาณ 50,000 ล้านบาท กำหนดขายเป็นหน่วยลงทุนเหมือนกับธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.ซึ่งทั้ง 2 ธนาคาร จำหน่ายตั้งแต่ราคาหน่วยละ 50 บาท ไปจนถึง 500 บาท มีอายุ 3 ปีและ 5 ปี มีเงินรางวัลสูงสุดถึง 10 ล้านบาท แต่สลากออก ธอส. อาจจะมีการเพิ่มลูกเล่น ด้วยการเพิ่มแรงจูงใจจากรางวัลให้สามารถนำไปลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้บ้านได้ เช่น อัตราดอกเบี้ย 0% ในช่วง 5 ปีแรก เป็นต้น ซึ่งลูกเล่นเหล่านี้ จะออกมาในลักษณะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มแรงจูงใจเรื่องของอยู่อาศัยเป็นหลัก นอกเหนือจากเงินรางวัล ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุป ส่วนเงินฝากที่ระดมมาได้นั้น จะรองรับการปล่อยสินเชื่อใหม่อีกหลายประเภท โดยเฉพาะ Reverse Mortgage เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย
ส่วนความคืบหน้าในการปล่อยสินเชื่อ Reverse Mortgage ขณะนี้ ธอส.กำลังหารือกับกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อพิจารณาว่า ต้องการให้ปล่อยสินเชื่อผู้สูงอายุกลุ่มใด และนำบ้านที่ดินบริเวณใดมาค้ำประกัน เช่น โครงการที่อยู่อาศัยพัฒนาโดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือที่อยู่อาศัยในหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ขอนแก่น จึงต้องสรุปให้ชัดเจนอีกครั้ง โดยคาดว่า จะใช้เงินทุนรองรับโครงการดังกล่าว 10,000 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังเปิดทางให้ ธอส.สามารถเข้าซื้อหุ้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น การรับจัดทำสัญญา การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม การเมินมูลค่าทรัพย์สิน การประกันวินาศภัย ประกันอัคคีภัย เป็นต้น เพื่อต้องการให้ภาระเบี้ยประกันของลูกค้าและค่าบริการถูกลง และสามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร รวมไปถึงและการให้บริการทางการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อทำให้ ธอส.เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยได้อย่างทั่วถึง โดยบริการผ่านแอ็บพลิเคชั่น หรือรับชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ไม่จำเป็นต้องชำระเงินผ่านสาขาหรือเคาน์เตอร์ของเพียงอย่างเดียว แต่คงไม่ให้บริการบัตรเครดิต เพราะไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจของ ธอส.