นำร่อง นวัตกรรมป้องกันน้ำท่วม นิคมฯลาดกระบัง
กนอ.จับมือ JICA และ ชิชิบุ เคมิคัล พัฒนานวัตกรรม ป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจอุตสาหกรรม นำร่อง ก่อสร้างบ่อกักเก็บน้ำฝนใต้ดินด้วยโครงสร้างวัสดุพลาสติก ที่ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เป็นแห่งแรก
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ. ได้ร่วมกับ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และบริษัท ชิชิบุ เคมิคัล จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีพลาสติกจากประเทศญี่ปุ่น นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ มาเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว ด้วยการก่อสร้างบ่อกักเก็บน้ำฝนจากโครงสร้างวัสดุพลาสติก และได้นำมาติดตั้งทดสอบการใช้งานจริงแล้วที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังเป็นแห่งแรก ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม และหากโครงการดังกล่าวมีผลลัพธ์ที่ดีในการช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ก็อาจจะมีการนำไปขยายผลติดตั้งใช้งานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีความเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมต่อไป ซึ่งไม่เพียงส่งผลดีต่อพื้นที่อุตสาหกรรม แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อชุมชนใกล้เคียงอีกด้วย
ด้านนางสาวคัตสึระ มิยาซากิ ผอ. JICA กล่าวว่า การผลักดันโครงการความร่วมมือทางวิชาการนี้รัฐบาลญี่ปุ่นจะช่วยอำนวยความสะดวกในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ความรู้จากภาคเอกชนญี่ปุ่นมาสู่ไทย เนื่องจากภัยพิบัติจากอุทกภัย ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายประเทศ ในปัจจุบันกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง ที่มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำท่วมขังเป็นจำนวนมาก JICA จึงหวังว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนานวัตกรรมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ตามแนวทางการพัฒนาขององค์การสหประชาชาติ โดยโครงการศึกษาวิจัยนี้เริ่มมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 และจะสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม 2564 สำหรับ
โครงสร้างพลาสติกกักเก็บน้ำฝนในโครงการนี้ ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลน้ำหนักเบา มีลักษณะเป็นแผงติดตั้งไว้ใต้ดิน สามารถเพิ่มจำนวนชั้นได้สูงสุด 10 ชั้น เพื่อเป็นภาชนะกักเก็บน้ำฝนชั่วคราว สามารถเก็บน้ำไว้ในโครงสร้างพลาสติกได้ถึง 95% ของปริมาตรทั้งหมด โดยไม่ทำลายวัฏจักรของน้ำ และมีอายุใช้งานนานถึง 50 ปี สามารถนำมาใช้ได้ทั้งพื้นที่อุตสาหกรรม และเขตที่อยู่อาศัย ส่วนการติดตั้งที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นบ่อหน่วงน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังเป็นหลัก สามารถกักเก็บน้ำฝนไว้ใต้ดินได้มากถึง 303 ลบ.ม. และจะค่อยๆ ปล่อยน้ำออกผ่านท่อระบายน้ำในภายหลัง