คลังแจกโชค“ชิมช้อปใช้” 6 ครั้งรวม 12 ล.
จับแจกโชคกระตุ้นใช้จ่ายผ่าน “กระเป๋า 2 – ชิมช้อปใช้” นัดแรก 20 ธ.ค.นี้ ขน 169 “กระบะ-เก๋ง-ทองคำ” แจกขาช้อป ก่อนมอบอีก 5 ครั้ง จนถึง 3 ก.พ.63 เผยแยกแต่ละรอบใช้จ่าย ยกเว้น! กระบะที่จะจับรวมทุกครั้งอีกที รวมของรางวัล 12 ล้านบาท ด้าน “โฆษกคลัง” ย้ำ ผู้มีสิทธิ์ ณ ขณะนี้มากกว่า 7 ล้านสิทธิ์ จากผู้ใช้จริงเฉียด 4 ล้านคน พร้อมจ่าย cash back งวดแรก 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ควบคืนสิทธิ์ให้กลุ่มที่ถูกตัดสิทธิ์ไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วันแล้ว
นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงมาตรการ “ชิมช้อปใช้” จากการส่งเสริมการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 (กระเป๋า 2) ผ่านการจับรางวัลลุ้นรับของสมนาคุณจากธนาคารกรุงไทย รวมกว่า 500 รายการ มูลค่า 12 ล้านบาท ว่า ถึงตอนนี้มีผู้ใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋า 2 และได้รับ สิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลรวมกว่า 7 ล้านสิทธิ์แล้ว โดยมีผู้เติมเงินในกระเป๋า 2 จำนวน 482,000 คน แต่มีการใช้จ่ายจริง 393,000 คน รวมเป็นเงิน 13,151 ล้านบาทหรือเฉลี่ยต่อคนกว่า 30,000 บาท ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย จะทำการจับสลากโดยใช้วิธีการเดียวกับการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 6 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค.2562 ที่กระทรวงการคลัง จากนั้นจะจัดครั้งต่อไปในวันศุกร์ที่ 3, 10, 017 และ 24 ม.ค.2563 โดยครั้งสุดท้ายจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.2563
โดยแต่ละครั้งของการจับรางวัลจะรวมรายชื่อเฉพาะผู้มีสิทธิ์ของช่วงเวลานั้นๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดขึ้นเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม เฉพาะรางวัล รถกระบะ Toyota Hilux Revo จะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านผ่านกระเป๋า 2 นับแต่เริ่มจนถึงสิ้นสุดมาตรการได้มีโอกาสลุ้นรางวัลกันอีกครั้ง สำหรับของรางวัลในส่วนของผู้ใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 ในครั้งแรก (20 ธ.ค.2562) ประกอบด้วยรถกระบะ Toyota Hilux Revo 1 คัน รถจักรยานยนต์ Honda New PCX150 4 คัน โทรทัศน์ดิจิทัล Samsung TV55 8 เครื่อง และทองคำ 156 แท่ง รวมของสมนาคุณทั้งสิ้น 169 รายการ
“ระบบจะทำการจัดเก็บข้อมูลและจัดทำทะเบียนของผู้ได้รับสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัล โดยยอดสะสมทุกๆ 1,000 บาท จะได้รับ 1 สิทธิ์ ในการลุ้นรับของสมนาคุณกว่า 500 รายการ ซึ่งสามารถตรวจเช็ครายชื่อและจำนวนสิทธิ์ได้ที่ www.ชิมช้อปใช้.com ตั้งแต่เย็นวันนี้ (18 ธ.ค.2562) เป็นต้นไป โดยกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยจะแจ้งให้ผู้โชคดีได้รับทราบโดยตรงและผ่านเว็บไซต์ชิมช้อปใช้ ทั้งนี้ หากไม่ใช่รางวัลใหญ่ เช่น รถยนต์ หรือรถกระบะ เราก็พร้อมจะส่งมอบไปให้ได้ อย่างไรก็ตาม รางวัลที่ได้ผู้โชคดียังคงมีภาระภาษีที่จะต้องชำระต่อไป เหมือนเช่นปกติทั่วไป” โฆษกกระทรวงการคลังระบุ
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินมาตรการ “ชิมช้อปใช้” นายลวรณ กล่าวว่า ได้เห็นผลสำเร็จในการใช้จ่ายของประชาชนที่สูงขึ้นอย่างมาก โดยภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชนตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. – 17 ธ.ค. 2562 พบว่า มีผู้ใช้สิทธิ์รวม 3 เฟส 11,794,825 ราย มีการใช้จ่ายรวม 24,788 ล้านบาท แยกเป็นการใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 1 (กระเป๋า 1) 11,637 ล้านบาท และ กระเป๋า 2 อีก 13,151 ล้านบาท ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า การใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 ที่เป็นการเติมเงินของประชาชนเองมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้มีมูลค่าสูงกว่ายอดใช้จ่ายผ่าน กระเป๋า 1 แล้ว สะท้อนความนิยมของประชาชนต่อมาตรการ “ชิมช้อปใช้”
ส่วนการจ่ายเงินคืน (cash back) จากการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 นั้น กระทรวงการคลังได้มีการจ่ายเงินคืนครั้งแรกแล้ว เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2562 จำนวน 153,579 ราย รวมเป็นเงินประมาณ 384 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. – 30 พ.ย. 2562 ทั้งนี้ มีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่ได้รับเงินคืนเนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องการใช้สิทธิ์ตามมาตรการดังกล่าว จะได้รับแจ้งข้อความทาง SMS ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ จึงขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับเงินคืนติดต่อคณะทำงานด้านกฎหมาย ส่วนกลาง โทร. 0 2270 6400 กด 7 หรือสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ ในวันและเวลาราชการ เพื่อตรวจสอบข้อมูล หากถูกต้องครบถ้วนจะได้รับเงินคืนทันที
โฆษกกระทรวงการคลังย้ำอีกว่า ส่วนผู้ที่เคยถูกตัดสิทธิ์จากการไม่เริ่มใช้สิทธิ์ตามมาตรการฯ ภายใน 14 วัน ได้มีการคืนสิทธิ์การใช้จ่ายผ่าน กระเป๋า 2 โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2563 สำหรับผู้ที่เคยผ่านการยืนยันตัวตนจากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลและถ่ายรูปเปรียบเทียบใบหน้าในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว สามารถใส่หมายเลข PIN เดิม เพื่อใช้งานแอปพลิเคชันและรับสิทธิ์ได้ทันที ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้ายืนยันตัวตน ขอให้ดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนในแอปพลิเคชันเพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว.