คลังดันจีดีพีปีนี้โต 3.6%
สศค. คาดจีดีพีปี 60 ขยายตัว 3.6% แต่ยังมีลุ้นอาจพุ่งแตะ 4% ได้ แม้ไกลเกินฝัน เพราะงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 1.6 แสนล้านบาท
คาดปีนี้ เบิกจ่ายได้เพียง 60-70% ขณะที่ การส่งออกขยายตัวเป็นบวก นักท่องเที่ยวแห่มาไทยมากขึ้น ก็ล้วนแต่เป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทย
“ จีดีพีไตรมาสแรกของปี 59 ขยายตัว 3.2% ไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 3.5% ไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 3.2% และไตรมาสสุดท้ายของ ปีที่แล้ว ขยายตัว 2.9% ซึ่งผลให้เศรษฐกิจตลอดทั้งปี2559 ขยายตัว 3.2% ของจีดีพี และยังทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีที่แล้ว สูงกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ” นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แถลงข่าวเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สศค.แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2560 เป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2560 มาอยู่ที่ 3.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 3.1-4.1% จากเดิม เมื่อช่วงเดือนต.ค. 59 สศค.คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ จะขยายตัวที่ 3.4% ซึ่งถือเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ทิศทางดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ประเทศไทยผ่านพ้นปัญหาการเมืองภายในประเทศ จากเดิมที่ติดลบในปี 57 โดยในปี 58 จีดีพีขยาย ตัวเป็นบวกได้ 2.8% ปี 59 ขยายตัว 3.2% ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเช่น การลงทุนภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากต่างๆ
นายกฤษฎา กล่าวว่า สศค.มองว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้ถึงระดับ 4% หากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 160,000 ล้านบาท สามารถเบิกจ่ายได้ 100% ซึ่งเป็นไปได้ยาก เพราะโดยปกติแล้วงบประมาณลักษณะดังกล่าว จะเบิกจ่ายได้ประมาณ 60-70% ส่วนที่เหลือจะเบิกจ่ายได้ในปีงบประมาณถัดไป แต่ก็ยังมีลุ้นในเรื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยหากเกินกว่าเป้าหมายก็จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการส่งออกหากเติบโตได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ก็จะมีส่วนช่วยเศรษฐกิจไทยได้มากเช่นกัน
” ตัวเลขที่ สศค.ต้องการเห็นคือ เศรษฐกิจขยายตัว 4% เพราะเราประเมินแบบระมัดระวัง “ conservative ” เอาไว้ก่อน แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย เช่น นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยได้มากกว่าเป้าหมาย การลงทุนรัฐวิสาหกิจมีมาก การส่งออกดีขึ้น ซึ่งก็ได้เห็นแนวโน้มจาก 2 เดือนที่ผ่านมาแล้ว (พ.ย.-ธ.ค.59) ถ้าแนวโน้มหลายตัวยังดีแบบนี้ต่อไปเศรษฐกิจก็จะโตได้ในกรอบบนที่ สศค.คาดการณ์ ”
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมใหม่ๆ ที่คาดว่า จะเริ่มดำเนินการได้ในปีนี้ อาทิ โครงการรถไฟทางคู่และรถไฟฟ้าในเขตเมือง โครงการมอเตอร์เวย์ และโครงการพัฒนาท่าอากาศยาน ขณะที่แนวโน้มรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าน้ำมันในตลาดโลกคาดว่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 3.6% นั้นมาจากสมมติฐานที่สำคัญ 7 ด้าน ดังนี้ 1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ 15 ประเทศคู่ค้าหลักเช่น สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ในปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.40% จากเดิม 3.34% 2. อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคาดว่าในปีนี้เงินบาทจะอ่อนค่าลงจากปีก่อนเล็กน้อยมาอยู่ที่ 35.75 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ทำให้มีเงินทุนไหลออก ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง 3. ราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยคาดว่าในปีนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 53.70 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากในปีก่อนเล็กน้อย ทำให้อุปสงค์และอุปทานเริ่มใกล้เคียงกัน 4. ดัชนีราคาส่งออกและนำเข้า โดยคาดว่า ปีนี้ การส่งออกขยายตัว 2.5% และนำเข้าขยายตัว 6.4%
5. อัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยคาดว่าในปีนี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 1.50% เนื่องจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ 6. นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยคาดว่าปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 35 ล้านคน ขยายตัวจากปีก่อน 7.3% ในขณะที่คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 1.84 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% และ 7. รายจ่ายภาครัฐ โดยได้มีการเพิ่มเติมงบประมาณกลางปี 60 จำนวน 160,000 ล้านบาท ไปในส่วนของโครงการพัฒนากลุ่มจังหวัด, กองทุนพัฒนา SMEs, กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และกองทุนหมู่บ้าน เป็นต้น.
หมายเหตุ : งบประมาณกลางปี 2560 รัฐบาลตั้งวงเงินเอาไว้ 190,000 ล้านบาท แต่ในจำนวนนำไปชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 2559 ประมาณ 26,000 ล้านบาท ทำให้จำนวนงบประมาณกลางปีที่สามารถใช้ได้จริงอยู่ที่ 160,000 ล้านบาท.