“สมคิด” จี้ติด รสก.เร่งเบิกงบฯ ลุยลงทุนแสนล.
“สมคิด” ตามจี้รัฐวิสาหกิจ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เดินหน้าขยายการลงทุน นำร่องสร้างความเชื่อมั่นภาคเอกชนไทย-เทศ สั่ง 19 รัฐวิสาหกิจรายใหญ่ ลุยโครงการลงทุนของตัวเองและบริษัทในเครือ มั่นใจก่อนสิ้นปี 62 มีเม็ดเงินลงทุนในซีกรัฐวิสาหกิจสะพัดมากกว่า 100,000 ล้านบาท เผยฝ่ายการเมืองบีบไม่ให้ลดการลงทุน ควบเร่งเบิกจ่ายให้ได้ตามเป้า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การประชุมติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยมี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และ นายประภาศ คงเอียด ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เข้าร่วมประชุม โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 19 แห่ง รวมถึงผู้บริหารบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง เพื่อรับนโยบายในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 1 กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา
นายสมคิดย้ำว่า ได้ให้นโยบายรัฐวิสาหกิจดำเนินการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสุดท้ายของปี 62 ต่อเนื่องถึงปี 63 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่เกิดปัญหาการชะลอตัว ทั้งจากปัญหาภายในของประเทศคู่ค้าสำคัญๆ และจากปัญหาสงครามการค้า ทำให้เราไม่สามารถพึ่งพารายได้จากการส่งออกเหมือนเมื่อก่อนก่อน ทั้งนี้ การลงทุนภายในประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของรัฐวิสาหกิจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนภาคเอกชนทั้งในและนอกประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ คาดว่าช่วงก่อนสิ้นปี 62 นี้ จะมีรัฐวิสาหกิจและบริษัทในเครือเร่งรัดการลงทุนได้ไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาท
ด้านนายอุตตม กล่าวว่า ได้กำชับให้รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่หลายแห่งเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อการลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เช่น บมจ.ปตท.ดำเนินการเพิ่มทุนใน บมจ.โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ที่มีผู้ถือหุ้นรายย่อยใช้สิทธิเกือบทั้งหมด ขณะที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ก็อยู่ในข่ายที่จะต้องดำเนินการขยายการลงทุนเช่นกัน ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงสั่งการให้ สคร.และกรรมการรัฐวิสาหกิจตัวแทนจากกระทรวงการคลัง ติดตามการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจให้ได้ตามเป้าหมาย เพื่อเป็นพลังงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงปลายปี สำหรับการออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ต้องพิจารณาชุดแพ็กเกจเพื่อดูแลทั้งการบริโภค การลงทุน
ขณะที่ นายประภาศ กล่าวว่า ในวันนี้ สคร. ได้จัดประชุมติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธาน และได้เชิญผู้บริหารรัฐวิสาหกิจที่มีวงเงินลงทุนขนาดใหญ่ 19 แห่ง และบริษัทในเครือ 4 แห่ง เพื่อรับนโยบายในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และให้สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสุดท้ายของปี 2562 และในปี 2563 ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงก่อนสิ้นปี 2562 รัฐวิสาหกิจและบริษัทในเครือจะมีการลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท
“รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายแก่รัฐวิสาหกิจให้เร่งรัดการเบิกจ่ายรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง โดยให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการ Front – Loaded ในส่วนโครงการที่สามารถดำเนินการได้ก่อน และให้รัฐวิสาหกิจเสนอโครงการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อให้กรอบลงทุนในภาพรวมเพิ่มขึ้น รวมถึงให้พิจารณากำหนดเรื่องการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ (CEO) และคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ และเชื่อมโยงกับโบนัสของ CEO และคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจเพื่อให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งนำนโยบายการเบิกจ่ายงบลงทุนไปสู่การปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น” ผอ. สคร. ย้ำ
ส่วนนายชาญวิทย์ นาคบุรี รอง ผอ. สคร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 62 มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ต.ค.62 จำนวน 122,088 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 82 ของแผนการเบิกจ่ายลงทุนสะสม โดยผลการเบิกจ่ายงบลงทุนส่วนใหญ่มาจากรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าบางปะกง (ทดแทนเครื่องที่ 1 – 2) และโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าภาคตะวันตกและภาคใต้เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ 12 ปี 60 – 64 ของการไฟฟ้านครหลวง ที่สามารถเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายโดยในปี 2562 คาดว่า รัฐวิสาหกิจจะสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมายที่กระทรวงการคลังได้ตั้งไว้ ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่รวมการประหยัดเงินลงทุนของ บมจ. ปตท. ในการเพิ่มทุนใน บมจ.โกลบอล พาวเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ที่มีผู้ถือหุ้นรายย่อยใช้สิทธิเกือบทั้งหมด ในปี 62 รัฐวิสาหกิจจะสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ประมาณร้อยละ 80 ของกรอบการลงทุนทั้งปี
สำหรับการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 63 ณ สิ้นเดือน ต.ค.62 มีผลการเบิกจ่ายสะสม 1 เดือน (ต.ค. 62) จำนวน 7,975 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 91 ของแผนการเบิกจ่ายลงทุน โดยรัฐวิสาหกิจที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย อาทิ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย แผนงานปรับปรุงท่อเพื่อลดน้ำสูญเสียของการประปานครหลวง งานก่อสร้างปรับปรุงขยายและงานวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 59 ของการเคหะแห่งชาติ.