ออมสินบุกสินเชื่อคนชรา
ออมสินมั่นใจภายในปีนี้ ลุยสินเชื่อผู้สูงอายุ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ RM พร้อมส่งให้ ธปท.พิจารณาแล้ว
“ ในปีนี้ ธนาคารออมสินจะเปิดให้บริการสินเชื่อ Reverse Mortgage (RM) หรือ สินเชื่อสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป นำที่อยู่อาศัยที่ตนมีกรรมสิทธิ์ และปลอดหนี้ นำมาเป็นรายได้ในการดำรงชีวิต เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อลูกหลาน ” นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยกานธนาคารออมสิน กล่าวและกล่าวว่า
RM ก็คือ สินเชื่อสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป นำที่อยู่อาศัยที่ตนมีกรรมสิทธิ์และปลอดหนี้ นำมาเป็นรายได้ในการดำรงชีวิตเป็นรายเดือนทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต เพื่อให้คนชราไม่ตกเป็นภาระแก่ลูกหลาน
” รูปแบบและวิธีการปล่อยกู้ RM ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก แต่เนื่องจากสินเชื่อดังกล่าวเป็นการให้บริการรูปแบบใหม่ ยังไม่มีธนาคารพาณิชย์รายใดเปิดให้บริการ ธนาคารออมสินจึงนำ RM ไปให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาว่า มีความเหมาะสมและสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ในฐานะที่ ธปท.เป็นหน่วยที่กำกับดูแลธนาคารเฉพาะกิจภายหลังจากที่กระทรวงการคลังโอนภารกิจไปให้แล้ว “
สำหรับรูปแบบการปล่อยสินเชื่อ RM นั้น จะดำเนินการตรงข้ามกับสินเชื่อที่ปล่อยกู้เพื่อซื้อบ้านในปัจจุบัน ที่กู้ต้องผ่อนชำระหนี้เงินและดอกเบี้ยจนครบสัญญา และเมื่อผ่อนชำระหนี้ครบแล้ว กรรมสิทธิ์ถึงจะตกอยู่กับเจ้าของบ้าน แต่ในกรณีของ RM เมื่อผู้กู้เอาบ้านและที่ดินมาจดจำนองกับธนาคารออมสินแล้ว ธนาคารจะเป็นผู้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่เจ้าบ้าน จนกว่าเจ้าของบ้านจะเสียชีวิต
นายชายชาติ กล่าวว่า การปล่อยให้แก่ RM ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือเอ็มอาร์อาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4-5% ต่อปี โดยจะปล่อยกู้ในสัดส่วน 70% ของราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กล่าวคือ บ้านราคา 1 ล้านบาท จะปล่อยกู้ไม่เกิน 700,000 บาท โดยธนาคารจะจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ผู้ทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต และเมื่อผู้กู้เสียชีวิต ธนาคารจะเปิดโอกาสให้ทายาทซื้อคืนก่อนเป็นอันดับแรก แต่หากทายาทไม่สนใจที่จะซื้อธนาคารจะนำที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขายทอดตลาด เช่น ขายได้ 1 ล้านบาท จะต้องจ่ายหนี้คืนธนาคารบวกค่าดอกเบี้ย รวมเป็นเงิน 750,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือ 250,000 บาท ธนาคารจะจ่ายคืนให้แก่ทายาท เป็นต้น
นายชาติชาย กล่าวว่าข้อดีของโครงการดังกล่าวคือ จะทำให้ผู้สูงอายุไม่ต้องกังวลใจกรณีบุตรหลานไม่เลี้ยงดูและที่สำคัญ ผู้สูงอายุจะมีความมั่นใจว่า จะได้รับเงินจากธนาคารเอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ทุกๆ เดือน ขณะเดียวกัน ธนาคารก็ไม่ขาดทุน และไม่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เนื่องจากธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยตามปกติ และราคาหลักทรัพย์ที่จะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จะทำให้ทายาทสนใจขอซื้อกลับคืนอย่างแน่นอน.