กรมศุลฯดึง Blockchain ตรวจปล่อยสินค้าทางเรือ
กรมศุลการ ดีลสายการเดินเรือภาคเอกชนระดับโกล ดึงระบบ Blockchain มาใช้ตรวจปล่อยสินค้านำเข้า-ส่งออก เผย “นำร่อง” กับท่าเรือแหลมฉบัง ก่อนขยายไปท่าเรืออื่น ย้ำเตรียมขายรถจดประกอบที่ยึดไว้ 4-5 พันคัน หวั่นเก็บนานยิ่งทำให้มูลค่ารถยนต์ด้อยราคา
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวการดำเนินนโยบาเชิงรุกในปีงบประมาณ 63 ว่า กรมฯได้นำระบบ Blockchain ของสายการเดินเรือภาคเอกชนในต่างประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนการขนส่งสินค้ามากถึง 70% ของมูลค่าการค้าในเวทีโลก มาร่วมในการบริหารจัดการในการตรวจปล่อยสินค้าทางเรือ โดยเน้นให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออก รวมถึงตัวแทนออกของ นอกจากนี้ ยังจะเน้นตรวจสอบสินค้าที่อาจสุ่มเสี่ยงกับปัญหาความมั่นคงประเทศ รวมถึงสินค้าผิดกฎหมายอื่นๆ เช่น อาวุธ ยาเสพติด วัตถุและสารพิษ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โดยเริ่มนำร่องที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยกรมฯจะติดตามและประเมินผลการดำเนินงานในช่วง 3 เดือนหลังจากนี้ ก่อนจะขยายผลนำไปในกับท่าเรืออื่นๆ โดยเฉพาะท่าเรือกรุงเทพ เป็นต้น
สำหรับปัญหารถจดประกอบที่ค้างอยู่กับกรมศุลกากรราว 4,000-5,000 คันนั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างเจรจากับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งที่เป็นหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน โดยหากได้สรุป กรมฯก็พร้อมจะระบายรถจดประกอบเหล่านั้นออกไป เนื่องจากยิ่งเก็บไว้นานวันยิ่งทำให้ค่าเสื่อมราคาสูงขึ้น และราคารถยนต์จะเหลือน้อยลง ทั้งหากพิสูจน์แชสซีส์ได้ว่ามีการนำเข้าถูกกฎหมายและตรงกับตัวเลข อาจพิจารณานำมาประมูลขายในประเทศต่อไป ในทางกลับกันหากพบว่ารถจดประกอบดังกล่าวผิดกฎหมาย ก็อาจจะส่งออกไปขายต่างประเทศ หรือไม่ก็ชำแหละชิ้นส่วนแยกประมูลขายต่อไป.