“บิ๊กตู่” เปิดปฏิบัติการ “จู่โจม” ตรวจงานรายกระทรวง
กลายเป็นจุดเริ่มต้นการปรับกลยุทธ์การทำงานเชิงรุกแบบสายฟ้าแลบ สำหรับการลงพื้นที่เดินสายตรวจการบ้านตามกระทรวงต่างๆของ “ นายกฯ ตู่ ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ประเดิม “ บิ๊กเซอร์ไพรส์ ” ที่ “ กระทรวงคมนาคม ” เป็นกระทรวงแรก เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำเอาบรรดาข้าราชการและเจ้าหน้าที่พากันตกอก ตกใจเมื่อจู่ๆ นายกรัฐมนตรีไปปรากฎตัว เล่นเอาบรรดาข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ ไม่รู้มาก่อนว่านายกฯ จะมา เพิ่งรู้เมื่อเช้า ยังไม่มีการเตรียมห้องประชุม ไม่มีงานต้อนรับ ”
ตามมาติดๆ กับ “ กระทรวงมหาดไทย ” ที่ไม่มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้าให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รู้ตัวเช่นกัน มีเพียงการแจ้งแบบทันด่วนล่วงหน้าก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปถึงเพียงแค่ 2-4 ชั่วโมงเท่านั้น ยกเว้น “ เจ้ากระทรวง ” ที่รู้ล่วงหน้า
โดย “ บิ๊กตู่ ” ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการในการทำงาน พร้อมทั้งรับฟังการรายงานความคืบหน้าของนโยบายที่ได้มอบหมาย และปัญหาทุจริตในพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องเร่งปราบปราม
ก่อนจะปิดท้ายที่ “ กระทรวงการคลัง ” ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดำเนินนโยบายกระทรวงการคลัง ก่อนจะการมอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหาร ในการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ ร่วมกับสำนักงบประมาณ ในการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบในช่วงปลายปี รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้างเงินงบประมาณหลายโครงการ
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกถึงเหตุผลว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ ถึงไปตรวจเยี่ยมกระทรวงต่างๆ เป็นการด่วนโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่า ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับการทำงานซึ่งต้องมีการตรวจ และติดตามความคืบหน้า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางตรวจกระทรวงต่างๆ นั้น คล้ายการตรวจราชการทั่วไป เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากที่ได้ให้แนวทางการทำงานและนโยบายไปแล้ว ทั้งนี้ เพื่อดูว่าแต่ละหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม ได้นำไปดำเนินการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาได้มากน้อยเพียงใด หากยังมีปัญหาใดที่ยังคงค้างคา ติดขัด ก็สามารถเสนอแนะมายังนายกฯ ได้เพื่อหาวิธีการแก้ไขต่อไปได้
“ การตรวจงานส่วนใหญ่มีการแจ้งกันก่อนอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้ทุกคนรู้สึกระส่ำระสาย ก่อนหน้านี้ซึ่งได้ไปทรวงกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง คงไม่ถึงกับไม่บอกกล่าวหรือแจ้งล่วงหน้า เพราะมีการแจ้งกันเป็นการภายใน เช่น แจ้งรัฐมนตรี ขณะเดียวกันนายกฯ เองไม่ต้องการให้มีการจัดการต้อนรับ เพราะอยากไปเพื่อตรวจงานจริงๆ ไปฟังปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้น เพื่อรับทราบและแก้ไข ไม่ใช่ว่าไปโดยไม่บอก เพียงแต่บอกอย่างไม่เป็นทางการ ”
แต่แน่นอนว่า การกระทำใดใดย่อมมีคนที่คิดย้อนแย้ง คิดว่างานนี้เป็นการไปไล่บี้รายกระทรวงระดับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูง ผู้บริหาร และข้าราชการประจำ เป็นการตรวจการบ้านรายกระทรวงแบบไม่ทันตั้งตัว และไม่มีเวลาเตรียมการ จนหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการไปจับผิดข้าราชการหรือไม่
ร้อนถึงเจ้าของโปรเจคตวจงานแบบจู่โจมอย่าง “ บิ๊กตู่ ” ต้องออกมาชี้แจงว่า “ การตรวจกระทรวงต่างๆ ไม่ได้มาตำหนิติเตียนใคร ทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ท่ามกลางปัญหาความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าวันนี้เดินหน้าไปได้มาก และจากนี้จะไปตรวจเยี่ยมการทำงานของทุกกระทรวงทุกสัปดาห์จนครบทั้งหมด ”
น่าสนใจว่า ภารกิจเดินสายตรวจเยี่ยมรายกระทรวงเป็นการ “ ขันนอต ” ข้าราชการทุกกระทรวง โดยไม่มีการแจ้งกำหนดการ แต่เป็นภารกิจที่ขอไปแบบเงียบๆ เรียบง่าย ไม่เอาผักชีโรยหน้า ไม่มีการต้อนรับใหญ่โต แต่เพื่อติดตามดูยุทธศาสตร์แผนแม่บทที่ได้มอบหมายไว้ว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว
ขณะเดียวกันการตรวจการบ้านรายกระทรวงครั้งนี้ เป็นการปรับโฉมการทำงานรูปแบบใหม่ที่เน้นเห็น “ ของจริง ” เนื่องจากข้าราชการบางกระทรวงถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการทำงานที่ล่าช้า และความไม่โปร่งใส
จากนี้ไปบรรดากระทรวงที่เหลือคงร้อนๆหนาวๆว่าเมื่อไร “ บิ๊กตู่ ” จะมาเยือนแบบไม่ตั้งตัว และคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า 19 กระทรวงภายใต้การบริหารของ “ รัฐบาล ” กระทรวงไหนจะสอบผ่านหรือสอบตก หรือต้องขันน็อตอย่างไร.