ธนารักษ์นำร่องจัดประชุม-ฉีดเงินลงพื้นที่ชุมชน
ธนารักษ์นำร่องใช้พื้นที่ชุมชนจัดประชุมหน่วยงานในสังกัดทุกเดือน จี้ผู้บริหารระดับสูงต้องลงพื้นที่โชว์สปิริต พร้อมอัดฉีดเงินไม่ต่ำกว่า 6 แสนบาทลงทุกชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากทั่วไทย ตั้งเป้าขยายห้องประชุมในที่ราชพัสดุปีนี้ 18 จ.ก่อนลุยให้ครบทั้ง 77 จ.ภายในปีหน้า
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงโครงการเปลี่ยนชุมชนเป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุว่า เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาล โดยจะประสานหน่วยงานในสังกัดกรมธนารักษ์และกระทรวงการคลัง รวมถึงส่วนราชการอื่นๆ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรงการท่องเที่ยวและกีฬา และอื่นๆ ในการเข้าใช้พื้นที่ของชุมชนต่างๆ เพื่อจัดประชุมสัมมนา ติดตามงาน และกิจกรรมอื่นๆ โดยกรมธนารักษ์และกระทรวงการคลังจะนำร่องก่อน จากนั้นจะเชิญชวนหน่วยงานอื่นๆ มาร่วมจัดกิจกรรม ทั้งนี้ กรมฯมีแผนจะเร่งดำเนินการเปลี่ยนชุมชนเป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุในพื้นที่ 18 จ.ภายในปีนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จครบทั้ง 77จ. ภายในปี 2563
“กรมฯมีที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศอยู่แล้ว ดังนั้นงบประมาณในการดำเนินงานตามนโยบายของท่านรอง นายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในครั้งนี้ จึงมีไม่มากนัก จะมีก็แต่ค่าเช่าโต๊ะ เก้าอี้ เครื่องเสียง ฯลฯ ค่าว่าะมีเงินไหลเข้าไปในชุมชนต่างๆ ราว 50,000-70,000 บาทต่อครั้งต่อเดือน ซึ่งหากทุกจังหวัดสามารถจัดการประชุมได้ทุกเดือน จะทำให้ชุมชนต่างๆ มีเงินจากหน่วยงานของรัฐที่เข้าไปจัดการประชุมฯไม่ต่ำกว่าปีละ 600,000 บาท ซึ่งยังไม่นับรวมเม็ดเงินที่เกิดจากการซื้อขายสินค้าและบริการของร้านค้าชุมชน ที่กรมฯเปิดให้มีการใช้พื้นที่ขายสินค้าและบริการของแต่ละชุมชน”
อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้ผู้บริหารระดับสูงของกรมฯ ตั้งแต่ระดับที่ปรึกษาฯ และรองอธิบดี รวมถึงตัวอธิบดีเอง จะต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนลงพื้นที่เพื่อเข้าประชุมร่วมกับธนารักษ์จังหวัด คลังจังหวัด และหน่วยงานอื่นๆ อย่างน้อยเดือนละครั้งในแต่ละพื้นที่ และหากหน่วยงานในระดับจังหวัด และ/หรือ หน่วยงานจากส่วนกลางในสังกัดกระทรวงอื่นๆ มาใช้บริการห้องประชุมในที่ราชพัสดุ รวมถึงเกิดการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าและบริการภายในชุมชนนั้นๆ แล้ว เชื่อว่าจะเกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก และลดความเหลื่อมล้ำได้ในระดับหนึ่งทีเดียว
โดยวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค.) กรมธนารักษ์จะเดินทางไปมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตามโครงการธนารักษ์ประชารัฐให้กับประชน 300 ราย แบ่งเป็นสัญญาเช่าเพื่อการเกษตร 257 ราย และเพื่ออยู่อาศัยอีก 43 ราย ครอบคลุม 4 อ. คือ อ.เคียนชา อ.พระแสง อ.พุนพิน และ อ.คีรีรัฐนิคม จากนั้น ในวันที่ 5 พ.ย. จะเดินทางไปมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี อีก 141 ราย และเป็นสัญญาเช่าเพื่อการเกษตร ทั้งหมด
“การเดินทางมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในแต่ละจังหวัด จะมีการดำเนินโครงการเปลี่ยนชุมชนเป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ พ่วงเข้าไปด้วยทุกครั้ง โดยวันพรุ่งนี้ จะมีกรมการท่องเที่ยว และสนง.ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย มาร่วมกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสนับสนุนชุมชนต่างๆ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวภายในชุมชน รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์และตราสัญลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นอัตตลักษณ์ของแต่ละชุมชน โดยผู้ประกอบการจะต้องใช้งบประมาณในการนี้ให้น้อยที่สุด เพื่อกระตุ้นการขายสินค้าและบริการของชุมชนต่างๆ” อธิบดีกรมธนารักษ์ ย้ำ
อนึ่ง พื้นที่ 18 จ.ที่จะถูกนำไปทำเป็นโครงการเปลี่ยนชุมชนเป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุในปีนี้ 2562 ประกอบด้วย จ.นนทบุรี นครนายก กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี พังงา สตูล จันทบุรี หนองคาย มุกดาหาร มหาสารคาม อำนาจเจริญ นครราชสีมา ลำปาง เชียงราย พิษณุโลก และนครสวรรค์.