“แคปปิตอล วัน”ชี้มาตรการลดค่าโอน-จดจำนองหนุนอสังหาฯโต
โบรกเกอร์รายใหญ่ “capital one” ชี้มาตรการลดค่าโอนและจดจำนอง ครอบคลุมตลาด 3 ล้านบาท ฐานใหญ่กว่า 50% หนุนอสังหาฯเติบโตกว่า 10% ชูจุดแข็งการเทคแคร์ลูกค้าต่างชาติ บริการดี แก้ปัญหาให้ลูกค้า
นายวิทย์ กุลธนวิภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในปี2562 ต่อเนื่องถึงปี 2563 ว่า ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวลงตามทิศทางของตลาดและภาพใหญ่ทางเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีปัจจัยที่เข้ามาเสริมให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวดีขึ้น ผ่านมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่มีมติให้ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองเหลือ 0.01% โดยมีระยะไปสิ้นสุดถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ซึ่งครอบคลุมที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นฐานใหญ่กว่า 50% ของตลาด ทำให้กลุ่มนี้เติบโตได้อีก 10%
“อยากขอให้ทางกระทรวงมหาดไทย ออกประกาศด่วน เพื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์จะได้ทราบทิศทางที่แน่นอนเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภาพรวมปี 2563 ดูอาการจะลำบาก ขณะที่เงินบาท ยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะมีผลต่อลูกค้าต่างชาติที่จะเข้ามาซื้อโครงการคอนโดฯในไทย ขณะนี้แนวโน้มลดลงไปกว่า 50%1”
สำหรับธุรกิจของแคปปิตอล วันฯ ลูกค้าคนไทยยังคงมียอดขายไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนลูกค้าต่างชาติ บริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์ในด้านเครือข่าย (เน็ตเวิร์ค) ที่มีบริษัทอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ และที่ประเทศฮ่องกง เพื่อรองรับและเข้าไปดูแลลูกค้าต่างประเทศที่เข้ามาซื้อโครงการในประเทศไทยไม่ทอดทิ้งลูกค้า แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าตลอด และยังมีบริการปล่อยเช่ารายเดือนให้กับลูกค้า ทำให้ยังได้รับผลตอบแทน (ยิลด์) ที่ดีต่อเนื่อง ส่งผลถึงยอดการบอกต่อในการเข้ามาซื้อห้องชุดในบริษัทแคปปิตอล วันฯ ที่เพิ่มขึ้น อย่างเช่น ยอดขายจากประเทศฮ่องกงต่อเดือนประมาณ 10-20 ยูนิต ซึ่งลูกค้าฮ่องกงจะมองโครงการคอนโดฯราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท
ในด้านการบริหารงานขายในประเทศ ล่าสุดแคปปิตอล วันฯ ได้เข้าไปรับหน้าที่ดูงานขายโครงการเดอะเนสท์ จุฬาฯ – สามย่าน พัฒนาโครงการโดย บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในกลุ่มบริษัทพี.เอ็ม.กรุ๊ป รูปแบบคอนโดฯใหม่แบบฟรีโฮลด์ บนเนื้อที่ 2.4 ไร่ รวม 332 ยูนิต เริ่มต้นเพียง 3.29 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
“การเปิดให้บริการรถไฟฟ้า MRT เชื่อมเข้าไปอีก 4 สถานี จะมีการดึงคนในเมืองชั้นในออกมาและเชื่อมไปยังฝั่งธนบุรีได้ จะมีอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นตามแนวตะเข็บ ซึ่งในอนาคต บริเวณสามย่านจะเปลี่ยนโฉมหน้าไปมาก เนื่องจากมี Mega projects ของทางสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ ขณะที่ราคาขายต่อตร.ม.ของโครงการ เดอะเนสท์ จุฬาฯ ที่ 1.45 แสนบาทต่อตร.ม. เป็นราคาที่ลูกค้าจับต้องได้ ต่ำกว่า 20% เทียบราคาขายแล้วจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยในวันที่ 26-27 ต.ค.นี้ จะเปิดพรีเซลขายทั้งโครงการเป็นครั้งแรก”.