ผุดประกันสุขภาพอุ้มนักเที่ยวต่างชาติในไทย
คปภ. ผนึก สาธารณาสุขและหน่วยงานส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว หนุนใช้ “ประกันสุขภาพ” บริหารความเสี่ยงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแบบ Long Stay หลังพบยอดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเข้าไทยเพิ่มขึ้นทุกปี
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า คปภ.ร่วมแถลงข่าวกับ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมว.สาธารณสุข นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผช.รมต.ประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) นพ.ธเรศ กรัษนัยวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนายสรยุทธ ชาสมบัติ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพสำหรับคนต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตรา (วีซ่า) ประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa รหัส O-A (ระยะ 1 ปี) โดยมีคณะทูตานุทูตจากหลายประเทศร่วมรับฟังการแถลงข่าว
ทั้งนี้ เหตุผลในการออกหลักเกณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากประเทศไทยได้รับความนิยมด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการด้านการแพทย์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับด้านคุณภาพในระดับนานาชาติ และที่สำคัญราคาการให้บริการมีความเหมาะสมเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจำนวนมากเลือกเข้ามาท่องเที่ยวและรับบริการด้านสุขภาพ หรือบริการที่เกี่ยวเนื่องในประเทศไทย เช่น กลุ่มที่เข้ามาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย กลุ่มที่เข้ามาเพื่อพักฟื้นจากอาการเจ็บป่วย กลุ่มที่เข้ามารับบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อวันที่ 2 เม.ย.62 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การทำประกันสุขภาพสำหรับคนต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa รหัส O-A (ระยะ 1 ปี) โดยนำร่องในกลุ่มชาวต่างชาติที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปทุกรายที่เข้ามาพำนักระยะยาวในประเทศไทย (Long Stay) ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสประสบปัญหาด้านสุขภาพ ให้ได้รับการคุ้มครองและดูแลตลอดระยะเวลาที่พำนักในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลทำให้ประเทศไทยมีกลไกและยกระดับการคุ้มครองชาวต่างชาติในด้านสุขภาพ รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการของสถานพยาบาลไทยที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ อันจะเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพตามนโยบายรัฐบาล
เลขาธิการ คปภ. กล่าวอีกว่า ในส่วนความรับผิดชอบของสำนักงาน คปภ. นั้น เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนในฐานะนายทะเบียนได้ให้ความเห็นชอบแบบและข้อความหลักฐานแสดงการประกันภัยสำหรับคนต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa รหัส O-A ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ให้กับบริษัทประกันภัยที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯรวม 14 บริษัท ได้แก่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย, บมจ.ซมโปะ ประกันภัย, บมจ.ทิพยประกันภัย, บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์, บมจ.แปซิฟิค ครอส ประกันสุขภาพ, บมจ.ไทยประกันสุขภาพ, บมจ.นวกิจประกันภัย, บมจ.ฟอลคอนประกันภัย, บมจ.วิริยะประกันภัย, บมจ.สินมั่นคงประกันภัย, บมจ.เอเชียประกันภัย 1950, บมจ.เอ็ทน่าประกันสุขภาพ (ประเทศไทย), บมจ.แอกซ่าประกันภัย และบมจ.แอลเอ็มจี ประกันภัย
ทั้งนี้ กรมธรรม์ประกันสุขภาพดังกล่าวจะต้องระบุความคุ้มครองจำนวนเงินเอาประกันภัยสำหรับค่ารักษาพยาบาล ในกรณีผู้ป่วยนอกไม่ต่ำกว่า 40,000 บาทต่อปี และกรณีผู้ป่วยในไม่ต่ำกว่า 400,000 บาทต่อปี โดยชาวต่างชาติที่สนใจสามารถตรวจสอบบริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ และแผนประกันภัยผ่านเว็บไซต์ http://longstay.tgia.org นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อประกันสุขภาพผ่านช่องทาง Online หรือช่องทางตัวแทน นายหน้าประกันภัย และตามช่องทางการขายตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด ซึ่งบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องนำข้อมูลการทำประกันภัยของผู้เอาประกันภัยลงระบบในเว็บไซต์กลาง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบผ่านระบบได้
โดยจะเป็นการอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการออกวีซ่า และขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้มีความสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนกรณีผู้ขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวที่มีกรมธรรม์ประกันสุขภาพจากต่างประเทศอยู่แล้ว ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพ ต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยสำหรับกรณีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ข้างต้นเช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มบังคับใช้หลักเกณฑ์นี้ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.62 เป็นต้นไป.