สศอ.แนะธุรกิจปรับตัว รับเทรนด์อาหารวีแกน
สศอ. ชี้ เทรนด์อาหารวีแกนมาแรง แนะ ผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมอาหารนำไปประยุกต์ใช้ในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจรับมือกับแนวโน้มตลาดโลก เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารของไทย
นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ได้จัดทำแนวทางการพัฒนาอาหารวีแกนเพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทย ซึ่งอาหารวีแกนเป็นอาหารที่มาแรงแซงอาหารทุกประเภทในหมวดเพื่อสุขภาพและได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ผลิตสินค้าชั้นนำระดับโลก อาทิ บริษัท Impossible Foods Burger King McDonald’s และ KFC ที่ได้ออกผลิตภัณฑ์มาเปิดตลาดก่อน ไม่ว่าจะเป็น เบอร์เกอร์เนื้อไร้เนื้อ ไก่ทอดมังสวิรัติ และ บริษัท Kellogg Unilever และ บริษัท Nestlé กำลังจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตามมาในเร็วๆ นี้ รวมทั้งกระแสความนิยมของผู้บริโภคทั่วโลกโดยเฉพาะชาวอเมริกาและยุโรป
ที่ผ่านมา ตลาดอาหารวีแกนเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตามการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นตลาดส่งออกอาหารที่สำคัญของไทย ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยคนวีแกนในสหรัฐฯ เพิ่มจำนวนขึ้นจาก 2 ล้านคนในปี 2557 เป็น 20 ล้านคนในปี 2561 หรือร้อยละ 80 ต่อปีในช่วง 4 ปีหลัง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านอาหารของคนวีแกนในยุโรปเพิ่มขึ้นจาก 74,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปีหลัง (ปี 2557-2561)
นอกจากนี้ สถิติจำนวนสินค้าใหม่ (New product launce) ที่ออกสู่ตลาดโลกใน ปี 2561 กลุ่มอาหารวีแกนมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 จากปีก่อน ซึ่งสูงกว่าสินค้าอาหารทั่วไปที่เพิ่มขึ้นเพียง ร้อยละ 10 เท่านั้น ซึ่งตัวชี้วัดดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางการตลาดอาหารวีแกนที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้าม อันจะนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ รวมทั้งเป็นแนวทางในการวางนโยบายการพัฒนาของภาครัฐ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืนต่อไป นายอิทธิชัย กล่าว