คปภ.จี้ติดเร่งสินไหมฯจ่าย 13 ศพที่ปากน้ำ
คปภ. เผยกระบะคร่าชีวิต นศ.13 ศพที่สมุทรปราการ ย้ำ “พ.ร.บ.ขาด” ไม่คุ้มครอง แต่พบวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ “ต้นสังกัด” ทำประกันหมู่ฯเอาไว้ ชี้ญาติคนตายได้รับสินไหม บวกเงินจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย รวม 1.3 แสนบาทต่อคน ขณะที่ 6 คนเจ็บได้เงินช่วยเหลือคนละ 3 หมื่นบาท ระบุบริษัทประกันฯเตรียมประสานจ่ายสินไหมทดแทนแล้ว
กรณีรถกระบะหมายเลขทะเบียน ผจ 5322 ระยอง เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางพลิกคว่ำบริเวณถนนกิ่งแก้วปากทางเข้าซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย และผู้บาดเจ็บ 6 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ที่มาฝึกงานกับอู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่งตั้งไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ย.62 นั้น
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) และสำนักงาน คปภ. จ.สมุทรปราการ ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย และสั่งการให้สำนักงาน คปภ. ภาค 5 (อุบลราชธานี) และสำนักงาน คปภ. จ.ศรีสะเกษ เร่งประสานรายละเอียดด้านประกันภัยกับบริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องและวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. จ.สมุทรปราการ ว่า รถกระบะคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บมจ.สินทรัพย์ประกันภัย กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 007-AC0118-066376 เริ่มคุ้มครองวันที่ 7 ส.ค.61 แต่อายุการคุ้มครองสิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.62 จึงไม่ได้รับความคุ้มครอง ทั้งยังไม่พบว่ารถกระบะคันดังกล่าวทำประกันภัยรถภาคสมัครใจไว้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้กับนักศึกษาไว้กับ บมจ.วิริยะประกันภัย แบบประกันอุบัติเหตุกลุ่ม ปี 62 AEC Plus อัญมณี 1689 ในกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั่วไป จะได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาทต่อคน
สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 13 ราย และผู้บาดเจ็บ 6 ราย นั้น ตนได้สั่งการให้ประสานกับบริษัทประกันภัยดังกล่าวเพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้บาดเจ็บและทายาทผู้สูญเสียโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 12 ราย เป็นคนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และอีก 1 ราย เป็นคนในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อกับ ร.พ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เพื่อนำศพของผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ซึ่งสำนักงาน คปภ. จ.สมุทรปราการได้ประสานงานไปยังสำนักงาน คปภ. จ.ศรีสะเกษ และสำนักงาน คปภ. จ.บุรีรัมย์ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตดังกล่าวอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากบริษัทประกันภัยที่รับทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มให้กับวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ว่า บริษัทประกันภัยได้ติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิตทั้ง 13 รายแล้ว และจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยโดยด่วนต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 6 ราย ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลใน ร.พ.จุฬารัตน์ 9 บางพลี จ.สมุทรปราการ ร.พ.ศิครินทร์ บางนา กรุงเทพมหานคร และ ร.พ.นพรัตน์ราชธานี มีนบุรี กรุงเทพฯ นั้น สำนักงาน คปภ. จ.สมุทรปราการ ได้แจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยให้กับญาติของผู้บาดเจ็บและโรงพยาบาลได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้ติดตามให้มีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิดังกล่าวต่อไป
อนึ่ง กรณีที่กรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ของรถกระบะคันเกิดเหตุหมดอายุไปวันที่ 7 ส.ค.62 ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองนั้น สำนักงาน คปภ. จ.สมุทรปราการ จึงได้ประสานไปยังกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ที่ตั้งอยู่ตามภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิต เพื่อประสานกับทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิตในการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีเสียชีวิตรายละ 35,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัว ทางโรงพยาบาลสามารถใช้สิทธิยื่นเบิกเงินต่อกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนกรณีที่ผู้ประสบภัยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วต่อมาเสียชีวิต ก็มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 30,000 บาท และได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีเสียชีวิตอีกรายละ 35,000 บาท รวมเป็น 65,000 บาท
ดังนั้น เบื้องต้นจากกรณีเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เบื้องต้นผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยาจากระบบประกันภัยรายละ 135,000 บาท และผู้บาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 30,000 บาท และหากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบอุบัติเหตุมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย.