แห่พึ่งกรุงไทยหลังยืนยันตัวตน“ชิมช้อปใช้”ไม่ได้
ผช.รมว.คลัง จับมือ “กรมบัญชีกลาง-กรุงไทย-ททท.” ลงพื้นที่สุ่มตรวจร้านค้าส่อขายวัตถุประสงค์ พร้อมเชิญร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ย้ำสั่งเร่งเคลียน์ทุกปัญหา ทั้งร้านค้าและการใช้เงินผ่านแอ็ป “เป๋าตัง” เผยชาวบ้านแห่ไปที่สาขาแบงก์กรุงไทย หลังเจอปัญหาเดียวกัน “ระบบไม่เสถียร” ยืนยันตัวตน เพื่อรับและใช้เงิน 1,000 บาทไม่ได้
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผช.รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) พร้อมด้วยผู้บริหารจากกรมบัญชีกลาง ธนาคารกรุงไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าของร้านค้าที่เข้าร่วมตามมาตรการ “ชิมช้อปใช้” หลังจากเริ่มมีผู้ลงทะเบียนได้ใช้สิทธิ์ออกไปซื้อสินค้าและบริการจำนวนมากเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยย้ำว่า แม้จะมีบางคนยังไม่ได้รับ SMS หรือได้รับ SMS แต่ยังยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ แต่เมื่อได้โหลดทำการแอ็ปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” จึงต้องชวนผู้บริหาร ธนาคารกรุงไทย และ ททท. มาร่วมชี้แจง แนวทางการใช้เงิน เนื่องจากบางคนยังไม่เข้าใจถึงการใช้เงินจ่านเงินว่าต้องทำอย่างไร ทั้งในส่วนของกระเป๋า 1 กระเป๋า 2 รวมถึงจะต้องโหลดแอ็ปเป๋าตังเมื่อไร ตนจึงลงพื้นที่ชี้แจงประเด็นปัญหาเหล่านี้
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังติดปัญหาหลายด้าน ทั้งการออกไปใช้จ่าย ซื้อสินค้าอะไรได้บ้าง ซึ่งหลายกรณีพบว่า การชำระเงินซื้อสินค้า ร้านค้าได้รับเงินไม่สำเร็จเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงคลังย้ำว่า ผู้ลงทะเบียน เปิดมือถือให้ระบุสถานที่ บนสมาร์ทโฟน หรือโลเคชั่น เซอร์วิส กับแอพพลิเคชั่น เพื่อให้ระบบได้ทำการตรวจสอบ รับรู้ถึงพิกัดในจังหวัดออกไปท่องเที่ยว เพราะระบบการรับชำระเงิน เชื่อมโยงกับโลเคชั่น เซอร์วิสบนโทรศัพท์
ดังนั้น ตนขอย้ำเตือนว่า หากปิดโลเคชั่น เซอร์วิส หรือร้านค้าไม่ แชร์สถานที่ตั้ง การชำระสินค้านำไม่สำเร็จ กรณีผู้ผ่านการตรวจสอบได้รับสิทธิ์ แต่ไม่สามารถยืนยันตัวตน ผ่านการแสดงใบหน้า ขอให้เดินทางไปยังสาขากรุงไทยบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ เพราะบางคน มีใบหน้าแตกต่างจากบัตรประชาชน อาจกระทบต่อการตรวจสอบ เพื่อป้องกันสวมสิทธิ์
โดยผู้บริหารของ 3 หน่วยงานยังรณรงค์เชิญร้านค้าให้มาเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติม หลังได้ขยายเวลาสมัครออกไปถึง ออกไปถึง 15 ต.ค 62 ล่าสุด ได้มีร้านค้าใหม่สมัครร่วมโครงการประมาณ 80,000 ร้านค้า เมื่อร่วมกับร้านค้าเดิมที่ติดตั้งเครื่อง EDC และแอ็ป “ถุงเงิน” จำนวน 80,000 ร้านค้า รวมมีร้านค้าร่วมโครงการ 160,000 ร้านค้า พร้อมกำชับร้านค้า ห้ามขายสินค้าผิดวัตถุงประสงค์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะต้องการให้ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท ที่ร่วมโครงการในจังหวัดที่ลงทะเบียนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ดังนั้น จึงต้องดึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คุมเข้มการจำหน่ายสินค้าให้ถูกต้องวัตถุประสงค์ ทั้งพาณิชย์จังหวัด กรมบัญชีกลางส่งเจ้าหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ตรวจ และชูป้ายรณรงค์ขายสินค้าให้ตรงวัตถุประสงค์และเข้าร่วมสมัครเพิ่มเติม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมบัญชีกลาง โทร 02-2706400 กด 7 , App “เป๋าตัง” ติดต่อธนาคารกรุงไทย โทร 02-1111144 และข้อมูลเที่ยวชิมช้อปใช้ติดต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร 1672
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ในวันที่ 7 หรือวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้สมัครลงทะเบียนครบ 1 ล้านคน เมื่อเวลา 02.54 น. ทั้งนี้ แม้จะเต็ม 1 ล้านคน ตลอด 7 วันของการเปิดรับทะเบียนฯ แต่ก็มีผู้ที่ไม่ผ่านการลงทะเบียนฯ โดยมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการในช่วง 5 วันแรกว่า มีผู้ที่เสียสิทธิ์เพราะลงทะเบียนฯไม่ถูกต้องจากหลายๆ ปัจจัย รวมกันหลายแสนคน ซึ่งตลอดทั้ง 7 วันของการเปิดรับลงทะเบียนไปแล้ว และอีก 3 วันที่เหลือ ซึ่งคาดว่าจะมีคนลงทะเบียนฯครบ 1 ล้านคนของทุกวัน โดยจะทำให้ยอดผู้สมัครลงทะเบียนฯครบ 10 ล้านคนใน 10 วันแรกของการเปิดรับลงทะเบียนฯ และจะเป็นกลุ่มผู้สื่อเสียสิทธิ์รวมกันตลอด 10 วันแรกมากกว่า 1 ล้านคน
ทั้งนี้ หากนับรวมกับการลงทะเบียนยืนยันตัวตน, การไม่ใช้สิทธิ์ภายในเวลา 14 วัน และอื่นๆ แล้ว อาจทำให้มีการยึดสิทธิ์ดังกล่าวคืนกลับมาอีกเป็นจำนวนมาก และสิ่งนี้น่าจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงวันสิ้นสุดการเปิดรับลงทะเบียนฯ (15 พ.ย.) ซึ่งจะทำให้มี “พื้นที่ว่าง” เหลือให้กับผู้ที่ลงทะเบียนฯไม่ทัน หรือยังไม่ได้ลงทะเบียนฯ รวมกันมากกว่า 1.5 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่สุ่มตรวจกับบางสาขาของธนาคารกรุงไทยในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่า มีประชาชนจำนวนมากที่ประสบปัญหายังไม่สามารถยืนยันตัวตน เพื่อรับสิทธิ์การรับโอนเงิน 1,000 บาท และใบ้เงินดังกล่าวได้ เข้ามาขอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยดำเนินการให้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คนบอกว่า ตนเองก็ประสบปัญหาเดียวกัน จึงพยายามดำเนินการในขั้นตอนนี้อยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนของการถ่ายรูปบัตรประชาชน หรือขั้นตอนการถ่ายรูปเจ้าของบัตร กระทั่ง สามารถดำเนินการยืนยันตัวตนเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่รายนี้ตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นเพราะระบบที่ธนาคารกรุงไทยได้ออกแบบไว้ยังไม่เสถียรมากพอ อีกทั้งมีจำนวยคนที่สนใจลงทะเบียนฯและยืนยันตัวตนพร้อมกันในเวลาใกล้เคียงกันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้การลงทะเบียนฯและยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์ในการรับโอนเงินและใช้เงินผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” มีปัญหาอย่างที่เห็นในขณะนี้.