ชี้คนแก่ไม่ทันเด็ก/อีสานแหวกน้ำลุย“ชิมช้อปใช้”
พบคนวัยทำงาน แห่ลงทะเบียน “ชิมช้อปใช้” มากสุด รองลงมาคือ วัยเริ่มต้นทำงาน ชี้คนแก่วัย 60 อัพ ตามเด็กรุ่นลูก-หลานไม่ทัน ระบุภาคกลางนำโด่งลงรับสิทธิ์ฯสูง ต่อด้วยคนอีสานแหวกน้ำมาลงทะเบียน “โฆษกคลัง” ย้ำพร้อมตรวจเข้มหากพบใช้ผิดจุดประสงค์ หรือรับแลกเป็นเงินสด ถูกตัดสิทธิ์ทันที พ่วงเอาผิดตาม กม. เผยลงทะเบียนวันแรก หลุดไปเกือบ 2 แสน แต่ยังคงได้รับสิทธิ์ลงใหม่
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความสำเร็จการเปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์มาตรการ “ชิมช้อปใช้” ในช่วง 4 วันแรกที่มีผู้สนใจเข้าร่วมเต็มตามโควต้า 1 ล้านคน ในแต่ละวัน ว่า จากข้อมูลการลงทะเบียนช่วงวันที่ 23-26 ก.ย.62 หากแยกตามกลุ่มอายุพบว่า วัยทำงาน (อายุ 31-60 ปี) มีสัดส่วนมากที่สุดที่ร้อยละ 54 รองลงมา คือ วัยเริ่มต้นทำงาน (อายุ 22-30 ปี) ร้อยละ 32 วัยนักศึกษา (อายุ 18-21 ปี) ร้อยละ 8 และผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ร้อยละ 6 และหากแยกตามพื้นที่ซึ่งผู้ลงทะเบียนต้องการใช้สิทธิ์พบว่า ทั้ง 77 จังหวัด มีผู้แสดงความประสงค์ไปท่องเที่ยวและใช้สิทธิ์ โดยส่วนใหญ่ต้องการใช้สิทธิ์ในภาคกลาง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43 รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 16 ภาคตะวันออกร้อยละ 15 ภาคใต้ร้อยละ 11 ภาคเหนือร้อยละ 9 และภาคตะวันตกร้อยละ 6
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากการตรวจสอบสิทธิ์จากฐานข้อมูลกระทรวงมหาดไทย และตรวจสอบจังหวัดที่แสดงความประสงค์ไปท่องเที่ยวไม่ซ้ำซ้อนกับจังหวัดในทะเบียนบ้านแล้ว พบว่า เป็นผู้ผ่านเกณฑ์ 807,321 ราย ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์จะทยอยได้รับ SMS ยืนยันภายในวันนี้ (26 ก.ย.) และสามารถเดินทางท่องเที่ยวพร้อมเริ่มจับจ่ายใช้สอยได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สิทธิ์ที่คงเหลือในแต่ละวันถูกยกไปใช้ต่อเป็นโควตาสำหรับให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ให้ครบโควตารวมตลอดโครงการที่ 10 ล้านราย ดังนั้น ประชาชนจึงสามารถทยอยลงทะเบียนได้ต่อเนื่อง จนถึงวันที่ 15 พ.ย.ที่จะถึงนี้
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเน้นย้ำว่า มาตรการ “ชิมช้อปใช้” ไม่ใช่การแจกเงิน แต่ต้องการให้เกิดการใช้จ่ายในสินค้าและบริการที่กำหนด เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยสิทธิ์ 2 ส่วนคือ วงเงิน 1,000 บาทแรก ในกระเป๋า G-Wallet 1 เพื่อจูงใจให้กลุ่มคนที่มีกำลังซื้อออกมาท่องเที่ยวข้ามจังหวัด และสิทธิ์การได้รับเงินคืน (cash back) ร้อยละ 15 ของวงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาทในกระเป๋า G-Wallet 2 ซึ่งประชาชนต้องเป็นคนเติมเงินเข้าไปเอง ดังนั้น การดำเนินการที่ผิดจากวัตถุประสงค์ หรือหากตรวจพบว่ามีธุรกรรมลักษณะผิดปกติ เช่น การรับแลกวงเงินเป็นเงินสด จะถูกระงับสิทธิ์ทันที และจะถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.