สุริยะ สั่งเพิ่มสิทธิประโยชน์ดูดทุนจีนแข่งเวียดนาม
รมว.อุตสาหกรรม เร่ง สศอ.ปรับมาตรการเพิ่มสิทธิประโยชน์ดึงดูดนักลงทุนจากจีน และแข่งขันกับเวียดนาม พร้อมสั่งทบทวนมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก นัด คลัง ถกบาทแข็งช่วยส่งออก 13 ส.ค.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ว่า เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะนักลงทุนจากจีน เบื้องต้นได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)เร่งจัดทำมาตรการดึงดูดการลงทุน โดยให้จัดทำสิทธิประโยชน์ในการลงทุนสูงเพียงพอที่จะแข่งขันกับประเทศเวียดนามได้
พร้อมมีนโยบายให้จัดตั้งสำนักงานที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมในต่างประเทศเพิ่มที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน คาดว่าจะดำเนินการได้ภายใน 1 ปี โดยจะนำข้อสรุปนำเสนอให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงอุตสาหกรรมวันที่ 14 ส.ค.62 พิจารณาก่อนนำเสนอต่อครม.ในขั้นตอนต่อไป
และในเดือน ส.ค.นี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะเชิญนักลงทุนจีนประมาณ 300 ราย เข้ามารับทราบศักยภาพ ของประเทศไทย พร้อมพาไปดูพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการย้ายฐานการผลิตมาไทย
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ สศอ. ผลักดันมาตรการใหม่เพื่อดึงดูดการลงทุน โดยในอุตสาหกรรมยานยนต์ จะทำการทบทวนมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เนื่องจากฃแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ได้ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยมลพิษลงเป็นอย่างมาก และในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ จะเข้าไปพบปะกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมร่วมกันด้วย
นอกจากนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ร่วมกับกระทรวงการคลัง ออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และได้เตรียมประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดอุบลราชธานี ฉะเชิงเทรา และลพบุรี เป็นพื้นที่ลงทุน Bio Hub เพิ่มเติม
นายสุริยะ ยังได้กล่าวต่อว่า ในวันที่ 13 ส.ค.62 จะเดินไปพบผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางช่วยเหลือผู้ส่งออกไทย ที่กำลังประสบปัญหาเงินบาทแข็งค่า ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง
ด้าน นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้เปิดเผยว่า นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังได้มอบหมายให้ สศอ. เตรียมผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมไทยตามนโยบายรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างการผลิตที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการผลิต การบริโภค การจัดการของเสียและการนำวัตถุดิบกลับมาใช้ใหม่
รวมถึงได้มอบหมายให้ผลักดันการพัฒนาระบบโครงข่ายทักษะบุคลากรแห่งชาติ (National Re-skill Platform) ที่จะยกระดับทักษะแรงงานให้ได้มาตรฐาน พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลแรงงานด้วยระบบ Big Data โดยให้สิทธิประโยชน์ เช่น การลดราคาเช่าพื้นที่ หรือการกำหนดให้ประกาศนียบัตร/หนังสือรับรองฯ ของแรงงานในสถานประกอบการ ซึ่งสามารถใช้เป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมในการพิจารณาให้สินเชื่อผู้ประกอบการด้วย.