กอช.ชวน นร.-นศ.ออมเงินหลังเกษียณ
กอช.เชิญนักเรียน นิสิตนักศึกษาและผู้ปกครอง สร้างวินัยการออมในอนาคต เสริมความมั่นคงทางการเงินหลังอายุ 60 ปีเพียงสมัครสมาชิก กอช. พร้อมออมเงินขั้นต่ำเพียง 50 – 13,200 บาทต่อปี รับเงินสมทบจากรัฐตามช่วงอายุของสมาชิก และสิทธิลดหย่อนภาษีแต่ละปีได้เต็มตามวงเงินที่ส่งเงินออมสะสม
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า กอช. เชิญชวนนักเรียน นิสิตนักศึกษา หรือผู้ปกครอง สร้างวินัยการออมในอนาคต เพียงสมัครสมาชิก กอช. เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินหลังอายุ 60 ปี ให้มีกินมีใช้ในอนาคต โดยเฉพาะในวัยเกษียณ ทั้งนี้ เมื่อส่งเงินออมสะสมตั้งแต่50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี รัฐจะจ่ายเงินสมทบให้ทันทีในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปตามช่วงอายุของสมาชิก ดังนี้ ช่วงอายุ15 – 30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 600 บาท (คิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 4%*)
โดยในช่วงอายุมากกว่า 30 – 50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 960 บาท (คิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 7%*) ส่วนช่วงอายุมากกว่า 50 – 60 ปีรัฐสมทบให้100% ของเงินออมแต่ละครั้ง โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 1,200 บาท (คิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 9%*) ทั้งนี้ เงินสมทบจากรัฐบาลคิดเป็นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนโดยประมาณ
เลขาธิการ กอช.ย้ำว่า กรณีนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่เป็นสมาชิก กอช. ได้เข้าทำงานในระบบเป็นข้าราชการหรือพนักงานประจำของเอกชน ซึ่งจะได้รับสวัสดิการด้านบำนาญเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม หรือเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยังสามารถส่งเงินออมกับ กอช. ต่อได้ พร้อมรับดอกผลต่อเนื่องทุกปี เพียงไม่ได้รับเงินสมทบจากรัฐ โดยจะได้รับเงินสมทบจากรัฐตามเดิม เมื่อออกมาทำงานเป็นแรงงานนอกระบบ ทั้งนี้ สมาชิกสามารถนำจำนวนเงินที่ส่งออมสะสมตลอดปีไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินประจำปีตามหมวดที่กรมสรรพากรกำหนดได้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครสมาชิก กอช. เพียงมีอายุ 15 – 60 ปี โดยไม่เป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33, มาตรา 39, มาตรา 40 ทางเลือก 2, มาตรา 40 ทางเลือก 3,ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และไม่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิก่อนการสมัคร ได้ที่แอปพลิเคชัน “กอช” หรือที่ www.nsf.or.th หรือธนาคารของรัฐบาลทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคาร ธ.ก.ส., ธอส., ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยทุกสาขา เคาน์เตอร์เซอร์วิส เทสโก้โลตัส ตู้บุญเติม ทั่วประเทศ รวมทั้งสำนักงานคลังจังหวัด สถาบันการเงินชุมชน และเครือข่ายรับสมัครทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนเงินออม โทร. 02-049-9000.