กรมศุลฯขยาย One Stop Service ถึง เม.ย.ปีหน้า
กรมศุลกากร ขานรับความต้องการผู้ประกอบการ พร้อมขยายเวลา One Stop Service จาก 15 พ.ค.62 ถึง 30 เม.ย.63 หวังจูงใจผู้ประกอบการสุจริตและตรวจพบเองว่า เสียค่าอากรไว้ไม่ถูกต้อง ได้ชำระค่าอากรและค่าภาษีอื่นๆ ที่ขาดให้ครบถ้วน
นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วยผู้บริหารของกรมฯ ร่วมแถลงข่าวกรณี กรมศุลกากรขยายระยะเวลาโครงการรับชำระค่าภาษีอากรเพิ่ม ณ จุดเดียว (One Stop Service) โดยย้ำว่า หลังจากภาคเอกชนได้ใช้ประโยชน์จากโครงการนี้ จึงร้องขอให้มีการขยายเวลาโครงการ ดังนั้น กรมศุลกากรจึงได้ขยายระยะเวลาโครงการฯ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.62 ถึง 30 เม.ย.63 ทั้งนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการที่สุจริตและตรวจพบเองว่า เสียค่าอากรไว้ไม่ถูกต้อง มาดำเนินการชำระค่าอากรและค่าภาษีอื่นๆ ที่ขาดให้ครบถ้วน
โดยผลการดำเนินโครงการฯ ในปีล่าสุด พบว่า มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 158 ราย (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.61 ถึงวันที่ 30 เม.ย.62 ดังนั้น กรมศุลกากรเล็งเห็นว่า โครงการรับชำระค่าภาษีอากรเพิ่ม ณ จุดเดียว เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการที่สุจริต แต่อาจชำระค่าอากรและค่าภาษีอื่นๆ ไว้ไม่ครบถ้วนและประสงค์จะชำระค่าอากรและค่าภาษีอื่นๆ ให้ครบถ้วนตามกฎหมาย ประกอบกับเป็นโครงการฯ ที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก จึงได้พิจารณาขยายระยะเวลาดำเนินโครงการฯ ต่อไปเป็นปีที่ 2 โดยผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ สามารถทำหนังสือแสดงความประสงค์ถึงกองตรวจสอบอากร กรมศุลกากร ได้ตามกำหนดเวลาที่แจ้งข้างต้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ได้รับการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ สามารถชำระค่าอากรและค่าภาษีอื่นๆ ให้ครบถ้วนได้ที่กองตรวจสอบอากร กรมศุลกากร โดยไม่ต้องไปดำเนินพิธีการตามท่าหรือที่ต่างๆ และจะได้รับการพิจารณาผ่อนผันการปรับค่าอากร ได้รับการลดเงินเพิ่มอากรที่ต้องเสียหรือเสียเพิ่ม และไม่ต้องเสียเบี้ยปรับค่าอากร แต่ยังคงต้องเสียเงินเพิ่มและเบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย
สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ นี้ ได้แก่ ผู้ประกอบการที่นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยลักลอบหนีศุลกากร หรือมีเจตนาทุจริตปรากฏพยานหลักฐานชัดเจนในการหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงอากร หรือนำเข้าสินค้าเป็นของต้องห้ามต้องกำกัด หรือสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรืออยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบหลังการตรวจปล่อย ตรวจค้น หรือถูกดำเนินคดีในความผิดทางศุลกากรโดยหน่วยงานอื่น เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ กองตรวจสอบอากร กรมศุลกากร ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาไม่ให้เข้าร่วมโครงการฯ ในกรณียื่นเอกสารไม่ครบถ้วน ไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานศุลกากร ไม่มาชำระค่าอากรและค่าภาษีอื่นๆ ที่ขาดให้ครบถ้วน หรือกรณีอื่นใดที่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีเจตนาที่ไม่สุจริต ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ กองตรวจสอบอากร หมายเลขโทรศัพท์ 02-667-6680 และดาวน์โหลดตัวอย่างหนังสือแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และเอกสารประกอบ ได้ที่เว็บไซต์ www.customs.go.th.