คปภ.ปิดจ็อบประกันภัยข้าวฯที่นครพนม
คปภ. เดินสายลงพื้นที่ให้ความรู้ “ชาวนา– Trainers” ถึงเมืองนครพนมส่งท้าย “ภาคเหนือ-กลาง-อีสาน” เผยปิดจ็อบทำประกันภัยข้าวนาปีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายชนะพล มหาวงษ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายคดีและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก ดร.สุทธิพล ทวีชัยการเลขาธิการ คปภ. ให้นำคณะเจ้าหน้าที่คปภ. ลงพื้นที่ให้ความรู้ด้านประกันภัยแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ จ.นครพนมโดยระบุว่า ปีนี้สำนักงาน คปภ. มุ่งมั่นและทุ่มเทให้ความรู้ด้านประกันภัยแก่เกษตรกรผ่านโครงการอบรมความรู้ประกันภัย “Training for the Trainers” เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้แก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดต่อให้กับเกษตรกร
รวมทั้งผลักดันระบบการประกันภัยให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายครอบคลุมในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 10 จังหวัด ได้แก่จังหวัดนครราชสีมา นครสวรรค์ ชัยนาทเพชรบูรณ์ น่าน เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี นครพนม และนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ สำนักงานคปภ. ได้จัดการอบรมฯไปแล้ว 8 ครั้ง สำหรับการจัดอบรมฯที่ จ.นครพนมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 มี.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นครั้ง 9 โดยพบว่า ในปี 2561 จ.นครพนม มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปี 1.32 ล้านไร่ มีการทำประกันภัยข้าวนาปี 525,908 ไร่ คิดเป็น 39.58 % (อยู่อันดับที่ 22) ที่มีการทำประกันภัยข้าวนาปีของประเทศในส่วนของการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พบว่า ในพื้นที่ จ.นครพนมไม่นิยมปลูกพืชชนิดนี้
ทั้งนี้ในส่วนของรูปแบบการอบรมความรู้ด้านประกันภัยครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 วันกล่าว คือในวันที่ 25 มิ.ย. ตนและคณะวิทยากรตลอดจนภาคอุตสาหกรรมประกันภัยได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร 250 รายในพื้นที่ ต.พิมาน อ.นาแก เพื่อรับทราบถึงสภาพปัญหาอุปสรรคข้อคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะของการทำประกันภัยข้าวนาปี โดยเกษตรกรได้มีการสะท้อนสภาพปัญหาการทำประกันภัยข้าวนาปีในปีที่ผ่านมาโดยมีคณะวิทยากรจาก สำนักงาน คปภ. เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. และผู้แทนจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมชี้แจงจนเป็นที่เข้าใจของเกษตรกร รวมทั้งได้มีการนำข้อมูลจากการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรในครั้งนี้ไปปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการรับประกันภัยข้าวนาปีให้ดียิ่งขึ้นในปีต่อไป
ถัดมาในวันที่ 26 มิ.ย. เป็นการเปิดโครงการอบรมความรู้ประกันภัย (Training for the Trainers) สำหรับการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ประจำปี 2562 ณ ห้องฟอร์จูนแกรนด์บอลรูม ร.ร.ฟอร์จูนริเวอร์วิวโดยมีนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รอง ผจว.นครพนมให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานและกล่าวขอบคุณสำนักงาน คปภ. ที่เลือก จ.นครพนมเป็นสถานที่จัดการอบรมความรู้ด้านประกันภัย อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกร จ.นครพนม ในการนำระบบประกันภัยใช้เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ
ทั้งนี้ นายชนะพลได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “การประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จุดเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรไทย” ตอนหนึ่งว่า ปีนี้ มีการกำหนดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยข้าวนาปีอยู่ที่ 85 บาทต่อไร่ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยรัฐบาลอุดหนุน 51 บาทต่อไร่ และธ.ก.ส. อุดหนุน 34 บาทต่อไร่ ซึ่งเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด
ในส่วนของการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอัตราค่าเบี้ยประกันภัย 59 บาทต่อไร่ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศโดยรัฐบาลอุดหนุน 35 บาทต่อไร่ และธ.ก.ส. อุดหนุน 24 บาทต่อไร่ เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นลูกค้าของธ.ก.ส. ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเช่นกัน
ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีเร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อได้รับสิทธิ์ทำประกันภัยข้าวนาปีประจำปี 2562 ภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของการทำประกันภัยข้าวนาปีในพื้นที่ภาคกลางภาคเหนือและภาคอีสาน (ยกเว้นภาคใต้ถึงวันที่ 15 ธ.ค.62)
ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในรอบที่ 2 สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพื่อได้รับสิทธิ์ทำประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 ถึง 15 ม.ค.63 ทั้งนี้
หากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ที่แอพพลิเคชั่น“กูรูประกันข้าว” หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนคปภ. 1186.