“สมคิด”เร่งสร้างทวายเชื่อมสองคาบสมุทร
ไทย เมียนมา และญีปุ่น ตกลงที่สร้างท่าเรือทวาย ท่าเรือแห่งที่จะเชื่อมสองคาบสมุทรเข้ากัน ซึ่งจะส่งผลให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้า และอุตสาหกรรมในเออีซี หากไม่เกิดอาการสะดุดอีกครั้ง
“ญี่ปุ่นได้ขอร้องให้ไทยช่วยสร้างรถไฟระยะทาง 134 กิโลเมตร จากท่าเรือน้ำทวายถึงบ้านน้ำพุร้อน จังหวัดกาญจนบุรี นอกจากการก่อสร้างถนน จากเดิมกำหนดเอาไว้ว่า เป็น 2 เลน จะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 4 เลน”
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลกล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างเมียนมา และไทย เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง (JHC) ลงทุนระหว่างรัฐบาลไทย เมียนมา และญี่ปุ่น ที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา และกล่าวว่า
“โครงการทวาย จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ เพราะการเชื่อมโยงระหว่าง 2 มหาสมุทรคือ แปซิฟิก และอินเดีย จะก่อให้เกิดการค้า และการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสทองของประเทศไทยที่จะพัฒนาโครงการนี้ให้สำเร็จ”
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.58 นายสมคิด พร้อมด้วยรัฐมนตรีจากเมียนมา และญีปุ่น ได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในข้อตกลงของผู้ถือหุ้น (Shareholders’ Agreement) ของนิติบุคคลเฉพาะกิจ หรือ SPV ซึ่งจะเป็นบริษัทกลางมีผู้ถือหุ้นเท่าๆ กันทั้ง 3 ฝ่ายคือ ฝ่ายละ 6 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 18 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายที่จะขยายโครงการทวาย จากปัจจุบันมีขยายพื้นที่ 27 ตารางกิโลเมตร และกลายเป็นโครงการขนาดใหญ่ 197 ตารางกิโลเมตร หรือ Full phase ในอนาคต
จากแผนการปัจจุบันที่มูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท จะเพิ่มขึ้นเป็น 350,000 ล้านบาท หรือ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะไม่มีโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก แต่จะเป็นรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ เขื่อนขนาดใหญ่ เพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรม และโรงงานขนาดใหญ่จากนักลงทุนญี่ปุ่นในอนาคต
นายสมคิด ระบุว่า ในระหว่างการประชุม ตนได้เสนอรัฐบาลเมียนมา และญี่ปุ่น ดำเนินโครงการทวายแบบเต็มรูปแบบ เนื่องจากการลงทุนเฟสแรกมีแผนแม่บทอยู่แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2559 โครงการนี้จึงไม่จำเป็นต้องรอเฟสแรก
ส่วนการพัฒนาเข้าสู่เฟสที่สอง จะมีการประชุมคณะกรรมการ JHC ครั้งหน้าอย่าช้าช่วงปลายเดือนก.พ.-มี.ค.ปีหน้า หลังจากเมียนมามีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว
นายสมคิด กล่าวว่า การก่อสร้างถนน 2 เลน ระยะทาง 134 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 4,500 ล้านบาท จะเป็นโครงการลงทุนอัน ดับแรกของไทยที่นำไปสู่กาก่อสร้างโครงการทวาย เพราะถนนนี้ เป็นเหมือนเส้นเลือดสายใหญ่ที่นำทุกสิ่งทุกอย่างไปหล่อเลี้ยงทวาย แม้ว่าปัจจุบันถนนเส้นนี้ มีการเดินรถอยู่แล้ว แต่เป็นเส้นทางที่ลำบาก โดยเฉพาะเส้นที่ต้องวิ่งบนภูเขา และในช่วงฤดูฝน ส่วนการขยายจาก 2 เลน เป็น 4 เลนนั้น ไม่ได้น่าห่วงแต่อย่างใด ขอให้โครงการทวายเดินหน้าโดยไม่สะดุดเพราะปัญหาการเมืองก็ใช้ได้แล้ว