เสธ.แดงรื้อโควตาหวย
![](https://aec10news.com/wp-content/uploads/2019/05/xi.jpg)
ในที่สุดบอร์ดสำนักงานสลากฯ ที่มี “เสธ.แดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นประธาน ต้องตัดสินใจอย่างฟ้าผ่า โดยไม่ต่อสัญญา หรือโควตาให้แก่ผู้ค้าสลากรายใหญ่ ที่เป็นบริษัท นิติบุคคล จำนวน 2,495 ราย คิดเป็นโควตาที่ถือครองอยู่ทั้งหมดกว่า 60,000 ฉบับคู่ เพื่อดัดหลังผู้ประกอบการเหล่านี้ ในฐานะที่อยู่พื้นหลังการขายสลากเกินราคา
การประชุมบอร์ด เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2558 ที่มี “เสธ.แดง” เป็นประธานได้หารือกันก่อนเที่ยง เพื่อตัดสินใจเรื่องดังกล่าว และนัดสื่อมวลแถลงข่างอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 14.30 น. ภายหลังจากคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ (บอร์ด) ลงมติไม่ต่ออายุสัญญาให้แก่บริษัท นิติบุคคลส่งให้ต้องปิดตำนาน 5 เสือกองสลากฯ โดยจะมีเริ่มมีในเดือนธ.ค.นี้
พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ (20 ต.ค.) ถือเป็นการประชุมครั้งที่ 15 ในรอบปี2558 และตั้งแต่ตนเข้ามานั่งตำแหน่งในระยะเวลา 4 เดือน ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาตามคำสั่งของ คสช. และเมื่อความต้องการของประชาชน และผู้ค้าสลากรายย่อยที่ต้องการค้าสลากมีสูงมาก หลังจากเปิดให้มีการซื้อตรง และจองซื้อไปแล้ว 2 งวด ก็หมดเกลี้ยงภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 นาที ทำบอร์ดต้องตัดสินใจยึดโควตาของบริษัทนิติบุคคลที่กำลังจะหมดอายุแล้ว เกลียงให้แก่ผู้ค้าสลากรายย่อยที่มีความหวังจากการซื้อสลากโดยตรงจากสำนักงานสลากฯ ผ่านธนาคารกรุงไทย
โดยสลากที่ยึดคืนมานั้น มีจำนวน 2,495 ราย คิดเป็นโควตาที่ได้รับประมาณ 60,194 ฉบับคู่ หรือ 120,388 ฉบับ โดยจะไม่แตะต้องสลากประเภทนิติบุคคลขององค์กรการกุศล และมูลนิธิที่ทำงานทางด้านสาธารณะกุศลจริงๆ
สำหรับสลากไม่ได้ต่อสัญญา จะอยู่นำมาเข้าสู่ระบบการซื้อขายผ่านสำนักงานสลากฯ โดยสลากในงวดวันที่ 17 ม.ค.2558 จะมียอดการพิมพ์สลากออกมาทั้งหมด 50 ล้านฉบับคู่ หรือ 100 ล้านฉบับ จะแบ่งออกเป็นสลากสำหรับผู้ค้าสลากรายย่อย องค์กร และสมาคมการกุศลต่างๆ จำนวน 28 ล้านฉบับคู่ สลากที่สำนักงานสลากขายเอง ผ่านการซื้อตรง และจองซื้อ 20 ล้านฉบับคู่ และอีก 2 ล้านฉบับคู่เป็นโควตาของผู้ค้าสลากเดิมที่ยังไม่หมดสัญญา โดยจะหมดสัญญาในวันที่ 30 ธ.ค.58
และสลากในงวดถัดไปคือ วันที่ 17 ม.ค.2558 จะมีการปรับเปลี่ยนส่วนแบ่งใหม่ โดยสลากผู้ค้ารายย่อย องค์กร และสมาคมการกุศลต่างๆ ยังคงได้รับสลากเท่าเดิมคือ 28 ล้านฉบับคู่ ขณะที่การขายตรงของสำนักงานสลากฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านฉบับคู่ จากทั้งหมด 50 ล้านฉบับคู่
สำหรับบริษัทนิติบุคคลทั้ง 2,495 ราย มีผู้ค้าสลากรายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัท สลากมหาลาภ บริษัท หยาดน้ำเพชร บริษัท ขวัญฤดี และมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลรวมถึงชมรมพนักงานสลากฯ หรือที่เรียกว่า 5 เสือกองสลาก เพราะมีโควตาสลากอยู่ในมือมากที่สุดนั้น จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดตำนาน 5 เสือกองสลาก
พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การไม่ต่ออายุสัญญาโควตาสลากแก่บริษัทนิติบุคคลไม่ถือเป็นการทำผิดสัญญา เพราะอายุสัญญาได้สิ้นสุดลงไปแล้ว ทำให้โควตาทั้งหมดกลับคืนสู่สำนักงานสลากฯ เมื่อมติบอร์ดสำนักงานสลากฯ มีความต้องการที่จะขายสลากเอง ก็สามารถทำได้ โดยในเร็วๆ นี้ สำนักงานสลากจะประกาศรายชื่อบุคคล องค์กรการกุศล ลงในเว็บไซต์ของสำนักงานสลากฯ หากไม่ปรากฏรายชื่อในเว็บไซต์ก็หมายความว่า ไม่ได้รับการต่ออายุสัญญา ส่วนกรณีที่บอร์ดไม่ต่ออายุโควตาให้กับมูลนิธิสำนักงานสลากฯ ทำให้พนักงานที่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ เดือนละ 8,000-9,000 บาทก็จะได้รับการเยียวยาจากสำนักงานสลากฯ ต่อไป เพราะการรื้อโควตาสลากในครั้งนี้ สำนักงานสลากฯ ได้รับความร่วมมือจากพนักงานเป็นอย่างดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสำนักงานสลากฯ ได้มอบส่วนลด หรือกำไรให้แก่ผู้ค้า กรณีที่องค์กรการกุศล จะรับสลากไปขายในราคา 68.80 บาท หรือได้รับส่วนลด 14% จากราคาขายปลีกคู่ละ 80 เพื่อนำไปขายต่อให้แก่สมาชิกในราคา 70.40 บาท หรือมีกำไร 11.20 บาท เพื่อนำเงินเหล่าไปบริหารองค์กร ขณะที่รายย่อยทั่วไปได้รับส่วนลด 12% หรือ 9.60 บาท