สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 16 ต.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.ตาก (109 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.เลย (43 มม.) ภาคกลาง : จ.สุพรรณบุรี (109 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (82 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (69 มม.) ภาคใต้ : จ.ชุมพร (54 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ส่วนภาคใต้มีเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 17 – 21 ต.ค. 68 ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้ และอ่าวไทย ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 86% ของความจุเก็บกัก (69,285 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 78% (45,270 ล้าน ลบ.ม.)
3. ข่าวประชาสัมพันธ์:
วานนี้ (15 ต.ค. 68) นายชุมลาภ เตชะเสน ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือระดับประเทศ เรื่อง แนวปฏิบัติในการแบ่งปันข้อมูลภายใต้กรอบการแลกเปลี่ยนและการใช้ร่วมกันซึ่งข้อมูลและสารสนเทศ (Procedures for Data and Information Exchange and Sharing: PDIES)
ในการประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์การพัฒนาลุ่มน้ำโขง ค.ศ. 2021 – 2030 (Basin Development Strategy: BDS) ระบุว่า ลุ่มน้ำโขงต้องมีการแบ่งปันข้อมูลและการประสานงานข้ามพรมแดน ในการดำเนินการจัดการเกี่ยวกับการไหลของแม่น้ำ การจัดการตะกอน การรับมือกับภาวะฉุกเฉิน การออกแบบ และการจัดการไฟฟ้าพลังน้ำแบบขั้นบันได โดยการแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวเป็นการดำเนินการภายใต้ PDIES เพื่อรับมือต่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภายใต้สภาพภูมิอากาศที่รุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ สทนช. ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย จัดประชุมในครั้งนี้เพื่อเพิ่มการตระหนักรู้เกี่ยวกับ PDIES รวมถึงรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวปฏิบัติและความท้าทายในการแบ่งปันการใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พร้อมทั้งเสริมสร้างการประสานงานระหว่างหน่วยงานเพื่อปรับปรุงการไหลของน้ำ โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลที่ได้รับจากการประชุมเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงปฏิบัติ สำหรับปรับปรุงการดำเนินงานตามกรอบ PDIES และส่งเสริมการนำข้อมูลและเครื่องมือของ MRCS ไปใช้ในระดับประเทศต่อไป
4. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 15 ต.ค. 68 เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 15 จังหวัด 75 อำเภอ ได้แก่ จ.พิษณุโลก (อ.วังทอง และบางระกำ) จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสำโรง และสรรคโลก) จ.พิจิตร (อ.เมืองฯ สามง่าม โพทะเล โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง บางมูลนาก ทับคล้อ ดงเจริญ สากเหล็ก วังทรายพูน ตะพานหิน และวชิรบารมี) จ.นครสวรรค์ (อ.เมืองฯ ชุมแสง ไพศาลี พยุหะคีรี โกรกพระ และท่าตะโก) จ.อุทัยธานี (อ.เมืองฯ) จ.อุดรธานี (อ.เมืองฯ พิบูลยรักษ์ สร้างคอม หนองหาน บ้านดุง เพ็ญ กุดจับ หนองวัวซอ นายูง และกุมภวาปี) จ.อุบลราชธานี (อ.เมืองฯ วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ ตระการพืชผล และดอนมดแดง) จ.ชัยนาท (อ.สรรพยา) จ.สิงห์บุรี (อ.เมืองฯ อินทร์บุรี และพรหมบุรี) จ.อ่างทอง (อ.เมืองฯ ป่าโมก ไชโย และวิเศษชัยชาญ) จ.สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ บางปลาม้า สองพี่น้อง ดอนเจดีย์ หนองหญ้าไซ อู่ทอง เดิมบางนางบวช สามชุก และด่านช้าง) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา มหาราช บางปะหัน บ้านแพรก ท่าเรือ นครหลวง และบางซ้าย) จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ และสามโคก) จ.นครปฐม (อ.บางเลน สามพราน และนครชัยศรี) และจ.ฉะเชิงเทรา (อ.บางน้ำเปรี้ยว)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 ต.ค. 68