สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 29 พ.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคตะวันออก : จ.สระแก้ว (100 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.บุรีรัมย์ (93 มม.) ภาคใต้ : จ.นราธิวาส (70 มม.) ภาคเหนือ : จ.เพชรบูรณ์ (68 มม.) ภาคกลาง : จ.สระบุรี (47 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (37 มม.)
วันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. 68 ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ เนื่องจากร่องมรสุมจะมีกำลังอ่อนลงและจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาว สำหรับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศบังคลาเทศและอินเดียโดยไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 55% ของความจุเก็บกัก (44,269 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 35% (20,193 ล้าน ลบ.ม.)
3.ข่าวประชาสัมพันธ์: เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 68 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำโขงเหนือ ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุมลุ่มน้ำโขงเหนือ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย จ.เชียงราย
สำหรับการตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ เป็นไปตามกลไกของมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ในมาตรการที่ 6 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ โดยการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันปรับเกณฑ์การเฝ้าระวัง แจ้งเตือน สถานการณ์น้ำแม่สายในแต่ละกรณีให้มีความชัดเจน และขอให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลแผนที่น้ำท่วม (Flood Map) และนำข้อมูลเรดาร์ของกรมอุตุนิยมวิทยามาประกอบการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รวมทั้งให้สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พิจารณาดำเนินการนำระบบสำรวจภูมิประเทศ(Mobile Mapping System : MMS) และระบบแสดงผลข้อมูลแผนที่ 3 มิติแบบออนไลน์ มาสนับสนุนการวางแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อำเภอแม่สาย พร้อมให้ฝ่ายเลขานุการของคณะทำงานประสานและกำหนดเจ้าภาพหลักในการคาดการณ์สถานการณ์น้ำในแต่ละแม่น้ำและลำน้ำ ในส่วนการบริหารจัดการน้ำให้กรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำพิจารณาปรับแผนการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในความรับผิดชอบให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
3.มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568: วานนี้ 28 พ.ค. 68 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยในปัจจุบันมีฝนตกกระจายในหลายพื้นที่ตอนบนของเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยบริเวณสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำ 1,000-1,300 ลบ.ม. ต่อวินาที จากปริมาณน้ำที่รองรับได้สูงสุดที่ 3,660 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งในวันที่ 28 พ.ค. 68 กรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 900 ลบ.ม. ต่อวินาที และมีแนวโน้มเพิ่มถึงประมาณ 1,000 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบางพื้นที่ลุ่มต่ำใน จ.พระนครศรีอยุธยาและอ่างทอง โดยจังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าเพื่อรับมือสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าการระบายน้ำจะทยอยปรับลดหลังจากนี้ 1 สัปดาห์ เนื่องจากคาดว่าจะมีฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายน ก่อนที่จะกลับมามีฝนตกสะสมอีกครั้งช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ในช่วงนี้จึงสามารถเร่งระบายน้ำเพื่อเตรียมพร้อมพื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยา สำหรับรองรับปริมาณฝนที่คาดว่าจะตกเพิ่มขึ้นในช่วงปลายฤดูฝนช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมนี้ โดยขณะนี้ สทนช. ได้มีการบริหารจัดการน้ำในลักษณะของกลุ่มลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำสะสมบริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยาให้ได้มากที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 พ.ค. 68