คลังขยายกองทุนวายุภักษ์อีก 1 แสนล้านบาท
• ช่วยดันตลาดหุ้นไทย ไม่ต้องรอ Thai ESG
• ขานกองทุนวายุภักษ์พุ่งแตะ 5 แสนล้านบาท
• มั่นใจอีก 2 เดือนตั้งกองทุนพยุงหุ้นสำเร็จ
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ภายใน 2 เดือนนี้ กระทรวงการคลังจะได้ข้อสรุปเรื่องการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ เพื่อให้กองทุนดังกล่าวมีส่วนสนับสนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยการศึกษาเรื่องการระดมทุนเพื่อจัดตั้งกองทุนนี้ มี 2 ทางเลือก
ได้แก่ จัดตั้งเป็นกองใหม่กองที่ 3 หรือ ขยายวงเงิน จากกองที่ออกไปแล้ว ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีแนวโน้มว่า จะใช้ขยายเงินกองทุนเดิมเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว หากเปิดกองใหม่ จะมีเรื่องของกฎระเบียบในการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดตั้ง
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เหตุผลที่กระทรวงการคลังเห็นว่า จำเป็นต้องใช้กองทุนวายุภักษ์มาช่วยกระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจาก Thai ESG เป็นการลงทุนเพื่อประหยัดภาษี ซึ่งส่วนใหญ่ 90% ลงจะทุนในช่วงสิ้นปี ไม่ได้ลงทุนช่วงกลางปี ทำให้เกิดช่องว่างของการลงทุนจึงยังไม่มีเม็ดเงินทุนใหม่ เข้ามาลงทุน
“ส่วนเรื่องการปรับปรุงเงื่อนไข Thai ESG คาดว่า จะใช่เวลาอีก 2 สัปดาห์จะเสร็จสิ้น”
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กองทุนวายุภักษ์จะสามารถระดมทุนได้เร็วและลงทุนในตลาดหุ้นได้เร็วกว่าการที่จะรอการลงทุนของกองทุน Thai ESG ซึ่งการลงทุนใน Thai ESG อาจจะไม่ทันการณ์ กรณีที่เราต้องการกระตุ้นการลงทุน โดยจำนวนเงินที่มีความเหมาะสม น่าจะมีขนาด 100,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับกองทุนวายุภักษ์เดิมที่มีมูลค่ากว่า 340,000 ล้าน ก็จะทำให้สภาพคล่องตลาดทุนที่รัฐใส่เข้าไปนั้นสูงกว่า 500,000 ล้านบาท
เขามองว่า การที่ราคาหุ้นในตลาดทุนหลายตัวปรับลดลงเป็นโอกาสของการลงทุน ขณะที่ เป้าหมายการลงทุนของกองทุนวายุภักษ์นั้น จะเน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานเป็นหลัก อย่างไรก็ดี การที่ภาครัฐออกมาใช้มาตรการกระตุ้นตลาดทุนนั้น เป็นเพียงหนึ่งในช่องทางที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ การกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ดี จะเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้อย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กระทรวงการคลัง จ่อโอนหนี้ FIDF คืนแบงก์ชาติ