“สรรพสามิต” จับบุหรี่โชว์ 1.6 หมื่นซอง
สรรพสามิต บูรณาการตร.จราจรสกัดจับบุหรี่นอกเถื่อนกว่า 16,000 ซองได้ที่ย่านมีนบุรี โดยลักลอบใส่รถยนต์ขนจากสระแก้วเข้ากทม. มูลค่าสูงกว่า 1.3 ล้านบาทประมาณการค่าปรับกว่า 14 ล้านบาท
นางสาวนิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ที่เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต จากสำนักตรวจสอบ ป้องกัน และปราบปราม ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) สกัดจับรถยนต์ ต้องสงสัย พบผู้ขับรถยนต์มีท่าทางพิรุธ จึงทำการเข้าตรวจสอบภายในรถยนต์พบบุหรี่ต่างประเทศมิชอบด้วยกฎหมายจำนวนมาก ซุกซ่อนในลังกระดาษห่อด้วยถุงดำ เป็นบุหรี่ยี่ห้อ Capital จำนวน 9,500 ซอง ยี่ห้อ Texas 5 จำนวน 5,200 ซองและยี่ห้อ CANYON จำนวน 2,000 ซอง รวมทั้งสิ้น 16,700 ซอง มูลค่าของกลางรวม 1,380,072 บาท ค่าภาษีสรรพสามิต 938,468 บาท ประมาณการค่าปรับ 14,077,020 บาท
“จากการสอบสวนผู้ขับรถยนต์ให้การว่า รับจ้างขนบุหรี่ต่างประเทศมิชอบด้วยกฎหมาย จากจังหวัดสระแก้ว ในราคาเที่ยวละ 10,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหาตามมาตรา 203 มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน และตามมาตรา 204 ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน แห่ง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ก่อนนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีต่อไป”
นางสาวนิตยา กล่าวเพิ่มว่า กรมสรรพสามิตได้ดำเนินการยกระดับการปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ทุกรูปแบบตามนโยบายของ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต โดยกรมสรรพสามิตยกระดับการทำงานเชิงรุก ทั้งการเปิดศูนย์ปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงาน รวมถึงบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายใน และหน่วยงานภายนอก ซึ่งในครั้งนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือของกรมสรรพสามิตกับกองบังคับการตำรวจจราจร
“โดยกรมสรรพสามิตห่วงใยในความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชนทุกคน อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างความชอบธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริตตามนโยบายของ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของกรมสรรพสามิต ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยภาษีสรรพสามิต มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล สร้างมาตรฐานสากล เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน” นางสาวนิตยา กล่าว
หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th