คปภ.ลงดาบนักขายฉ้อฉลติดป้ายส้มตลอดชีพ
• คปภ.จับมือ 2 สมาคมคุมเข้มตัวแทน-นายหน้า
• ดีเดย์เดือนพ.ค.นี้ยันไม่มี “องคุลีมาล” แน่นอน
• ประชาชนเบาใจได้รับความยุติธรรมไม่มั่วนิ่ม
คปภ.จะใช้สีแดง ส้ม เหลือและเขียว ในการบ่งบอกถึงตัวแทน หรือนายหน้าที่ดี และไม่ดี แก่ประชาชน เพื่อป้องกันการฉ้อฉลที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในธุรกิจประกันภัยและประชีวิต
คปภ.ร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย แถลงข่าว โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลเกี่ยวการฉ้อฉลประกันภัย หรือ อาจจะฉ้อฉลประกันภัยกับภาคธุรกิจ ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำนักงาน คปภ. เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความร่วมมืออย่างเป็นระบบครั้งแรกของธุรกิจประกัน ที่จะเชื่อมโยงข้อมูลตัวแทน และนายหน้าระหว่าง 3 หน่วยงาน
สำหรับตัวแทนหรือนายหน้าที่กระทำความผิดฉ้อฉล กล่าวคือ เชิดเงินลูกค้าโดยไม่ส่งเบี้ยตามเวลาที่กำหนด หรือ ขายแบบประกันไม่ตรงกับความเป็นจริง ถ้าพบ คปภ.การกระทำผิดเช่นนี้ จะขึ้นป้ายสีแดงแก่บุคคลคนนั้น พร้อมส่งคดีความให้ศาลพิจารณาและเมื่อศาลพิจารณาเสร็จแล้ว
นอกจากบุคคลนั้น จะถูกลงโทษทั้งจำและปรับแล้ว ป้ายสีแดงจะปรากฏในชื่อต่อไปอีก 5 ปี หลังจากนั้น จะลงมาอยู่ป้ายสีส้มไปจนตลอดชีวิต เพื่อเป็นการประกาศลงโทษ และไม่มี “องคุลีมาล” อย่างแน่นอน
ส่วนสีเขียวคือ ตัวแทนและนายหน้าที่ดี ปัจจุบันบุคคลกรเหล่านี้ คิดเป็น 99% ของจำนวนบุคคลกรทั้งหมด ถ้าหายเชื่อว่า บุคคลใดมีพฤติกรรมฉ้อฉล คนที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะขยับขึ้นเป็นสีเหลือง และหากไม่มีความผิด ก็จะปลดลงมาเป็นสีเขียวตามปกติ โดยไม่ติด Blacklist
“โครงการนี้ จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในเดือนพ.ค.นี้ และขยายไปเฟส2 ซึ่งเฟสนี้ ตัวแทนหรือนายหน้าจะสามารถโชว์สี… ได้ว่า ตัวเองอยู่สีอะไร หากโชว์สีแดง ก็ขอให้ระวังหากจะทำธุรกรรมใดๆ แต่หากเป็นสีเขียว ก็ขอให้สบายใจได้” นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายคดีและคุ้มครองสิทธิประ โยชน์ สำนักงาน คปภ. กล่าว และกล่าวว่า
ความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้งสองสมาคมจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายใหม่ เนื่องจากบริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ก็ได้รับประโยชน์ด้วย กรณีรับพนักงานใหม่ก็สามารถสอบถามได้ว่า บุคคลนั้นอยู่ที่สีอะไร ซึ่งในกรณีที่ติดสีแดง คาดว่า มีอยู่ประมาณ 200 ราย
นายอดิศร กล่าวว่า การอยู่ในแต่ละสีนั้น อาจจะมีการขั้นตอนในการพิจารณาช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับหลักฐาน เช่น การฉ้อฉลที่เป็นสีแดง คปภ.คงใช้เวลาในพิจารณาไม่นาน เพราะความผิดจะชัดเจนมาก แต่ถ้าคนที่ติดแดงแล้วพ้นมลทิน เพราะศาลตัดสินว่า ไม่ผิด บุคคลนั้น จะอยู่สีเขียวทันที และไม่ถูกติดป้าย 5 ปีอีกด้วย