ส่งออกรถยนต์ปี 66 ทุบสถิติรอบ 5 ปี

• ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ 775,780 คัน
• BEV ยอดขายทะลุ 1 แสนคันพุ่งสูงสุด 381%
• ค่ายรถญี่ปุ่นดันส่งออกต่างประเทศ 1.1 ล้านคัน
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปตลอดทั้งปี2566 อยู่ที่ 1,117,539 คัน ทะลุเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 1,050,000 คัน และสูงกว่ายอดส่งออกก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ปี 62 และสูงสุดในรอบ 5 ปี เพิ่มขึ้น 11.73% จากปี 65 เนื่องจากประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ยังมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ยังขยายตัว จึงทำให้ส่งออกเพิ่มขึ้นในทุกตลาด ยกเว้นตลาดแอฟริกาที่ลดลง โดยมูลค่าการส่งออกในปี2566 อยู่ที่ 972,790.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2565 ที่ 8.13%

แม้ว่าในเดือนธ.ค.2566 อยู่ที่ 90,305 คัน ลดลง 19.09% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 84,334.69 ล้านบาท ลดลง 10.08% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน
สำหรับยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 133,621 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 15.75% เนื่องจากผลิตขายในประเทศลดลงถึง 29.94% โดยเฉพาะรถกระบะที่ผลิตลดลงถึง 41.30% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะ เพราะหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90.6% ของ GDP
ขณะเดียวกัน ส่วนหนึ่งมาจากรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาขายในประเทศ โดยมียอดจดทะเบียนถึง 75,690 คัน ทำให้ผลิตรถยนต์นั่งลดลง 16.24%
แต่การผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกปี2566 กลับเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 11.44% ตามยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 11.30% และสูงกว่าส่งออกปี2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 และลดลงจากเดือนพ.ย. 66 ที่ 18.19% เนื่องจากวันทำงานน้อยกว่า
ส่วนจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งปี2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,841,663 คัน ลดลงจากปี 65 ที่ 2.22%

ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนธ.ค.2566 มีทั้งสิ้น 68,326 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. ที่ 10.88% แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 17.48% ลดลง เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง และเพราะเศรษฐกิจชะลอตัวลงจากผลผลิตอุตสาหกรรมที่ลดลงตามการส่งออกที่ลดลง โรงงานจึงลดกะทำงานและลดทำงานล่วงเวลา คนงานขาดรายได้ ประกอบกับค่าครองชีพ และอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้เหลือเงินไม่เพียงพอในการใช้จ่ายอย่างอื่นได้
นอกจากนี้ การลงทุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ก็ยังต้องรองบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่ล่าช้าออกไปอีกหลายเดือน
ทั้งนี้ ตลอดทั้งปี2566 รถยนต์มียอดขาย 775,780 คัน ลดลงจากปี 65 ในระยะเวลาเดียวกัน 8.67%
สำหรับสถานการณ์การจดทะเบียนใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าในเดือนธ.ค.2566 และยอดจดทะเบียนใหม่สะสมตลอดทั้งปี 66 มีดังนี้
BEV จดทะเบียนใหม่จำนวน 11,187 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อน 317.43% โดยตลอดทั้งปี 66 มียอดจดทะเบียนใหม่สะสม 100,214 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ 381.77%
HEV จดทะเบียนใหม่จำนวน 5,509 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อน 34.43% โดยตลอดทั้งปี 66 มียอดจดทะเบียนใหม่สะสม 85,069 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ 32.85%
PHEV จดทะเบียนใหม่จำนวน 535 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อน 21.21% โดยตลอดทั้งปี 66 มียอดจดทะเบียนใหม่สะสม 11,703 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่ 3.28%