สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 1 ธ.ค. 66
สภาพอากาศวันนี้ :ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีฝนตกบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : วันที่ 2-6 ธ.ค. 66 ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 30.พ.ย. 66 น้อยกว่า ปี 65 จำนวน 4,025 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 63,814 ล้าน ลบ.ม. (77%)
ปริมาณน้ำใช้การ 39,610 ล้าน ลบ.ม. (68%)
การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำขนาดใหญ่
ระดับน้ำเกินระดับควบคุมสูงสูด 8 แห่ง ภาคเหนือ : แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อยบำรุงแดน และบึงบอระเพ็ด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลรัตน์ และลำปาว ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์
ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุด 4 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา ภาคกลาง : กระเสียว ภาคตะวันออก : คลองสียัด โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1. วางแผนการระบายน้ำ โดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด
2. ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ
3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่
สถานการณ์อุทกภัย
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา) รวม 29 อำเภอ 115 ตำบล 684 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,266 ครัวเรือน ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
สทนช.ประกาศ ฉบับที่ 6/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ธ.ค. 66 ดังนี้
1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ.ทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย) จ.ชุมพร (อ.สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และพะโต๊ะ) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พุนพิน เคียนซา พระแสง และดอนสัก) จ.ตรัง (อ.เมืองตรัง ห้วยยอด และวังวิเศษ) จ.พัทลุง (อ.เมืองพัทลุง และควนขนุน) จ.นครศรีธรรมราช (อ.เมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา พระพรหม ปากพนัง ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ ชะอวด และหัวไทร) จ.สงขลา (อ.เมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด สทิงพระ สิงหนคร ควนเนียง หาดใหญ่ นาหม่อม และบางกล่ำ) จ.ปัตตานี (อ.เมืองปัตตานี ปะนาเระ มายอ แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง ยะหริ่ง สายบุรี และหนองจิก) จ.ยะลา (อ.เมืองยะลา เบตง และรามัน) จ.นราธิวาส (อ.เมืองนราธิวาส เจาะไอร้อง ตากใบ บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ จะแนะ สุคิริน สุไหงโก-ลก และสุไหงปาดี)
2.เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก และเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองบางสะพาน คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำตรัง แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส
วานนี้ (30 พ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการสำคัญในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ประกอบด้วย การบริหารจัดการน้ำ
ในการนี้ นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง ผู้ช่วยเลขาธิการ สทนช. ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูลด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ด้วย โดยพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ มีแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ตาม พรบ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี พ.ศ. 2566 จำนวน 19 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ 8 อำเภอ มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 36,730 ไร่ พื้นที่ได้รับการป้องกัน 1,665 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 851 ครัวเรือน อาทิ โครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การอนุรักษ์ฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำชำพร้อมระบบส่งน้ำ และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น