สรุปข่าวประจำวันที่ 9 ตุลาคม 2566
นายกฯติดตามสถานการณ์อิสราเอล : นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านางสาวพรรณภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล ได้รายงานเพิ่มเติมต่อนายกรัฐมนตรีว่ามีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 2 คน จากเหตุการณ์กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล โดยนายกรัฐมนตรี กำชับเอกอัครราชทูตณกรุงเทลอาวีฟ หากมีสถานการณ์อะไรเพิ่มเติม หรือมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้รายงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ยิ่งลักษณ์ โพสต์เสียใจ :
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ (X) ระบุว่า ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตกรณีสถานการณ์การสู้รบ พร้อมประณามการกระทำรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ทุกคน พร้อมทั้งขอแสดงความห่วงใยต่อครอบครัวของแรงงานไทยที่มีรายงานข่าวว่าถูกลักพาตัวไปเป็นตัวประกัน คนไทยที่ติดอยู่ในภาวะสงครามและได้รับบาดเจ็บ ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลไทยได้ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยอย่างเต็มกำลัง ดิฉันขอให้พี่น้องคนไทยทุกคนปลอดภัยและได้เดินทางกลับบ้านเราโดยเร็ว
เศรษฐา เยือนฮ่องกง :
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เยือนฮ่องกง พบหารือกับภาคเอกชนฮ่องกง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวกับภาคธุรกิจฮ่องกงว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อบอกให้ทุกฝ่ายว่าประเทศไทยเปิดและพร้อมรับนักลงทุนและภาคเอกชน โดยยินดีที่ได้เดินทางมา เพื่อรับฟังคำแนะนำ และข้อคิดเห็นจากภาคธุรกิจในวันนี้ ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจว่า รัฐบาลเตรียมพร้อม และมีแผนรองรับสำหรับขั้นต่อไป (next step) และพร้อมให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกภาคเอกชน การเดินทางมาครั้งนี้เชื่อว่าได้ประโยชน์อย่างมาก
กิตติรัตน์ แจงเงินดิจิทัล :
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล ระบุว่า อุปสงค์ (Demand) ที่เพิ่มจากโครงการ ย่อมเพิ่มปริมาณกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่จะไม่เป็นเหตุให้ “ราคาเฟ้อ” เพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยของประเทศอยู่ที่เพียงประมาณ 60% อุปทาน (Supply) ย่อมเพิ่มได้โดยราคาไม่ขยับ และเมื่อผลิตเพิ่มขึ้นจะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของสินค้าที่ผลิตถูกลงอีก ถ้าไม่ลดราคา รัฐบาลขอเก็บภาษีจากกำไรที่สูงขึ้น
องอาจ ติง รบ.เรื่องเงินดิจิทัล :
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการคัดค้านนโยบาย แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า คนของรัฐบาลบางคน ออกมาตอบโต้คนเห็นต่างว่า เป็นพวกอยู่ดีมีกิน สุขสบาย ไม่เห็นหัวคนที่ยังลำบาก ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่ไม่เหมาะสม ที่ออกมาบอกให้เกิดการเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องคนรวยไม่เห็นด้วยที่จะแจกเงินให้คนจน ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว คนที่คัดค้านและคนที่เห็นต่าง คงไม่ได้แสดงความคิดเห็น บนพื้นฐานของสถานะทางเศรษฐกิจสังคมที่แตกต่างกัน ไม่ใช่เรื่องของคนอยู่ดีมีกิน กับคนที่ลำบากอย่างแน่นอน แต่แสดงความคิดเห็น บนเนื้อหาสาระข้อมูล ที่แตกต่างจากของรัฐบาลมากกว่า