สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 12 ก.ย. 66
ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกปานกลางถึงหนักมากบริเวณ จ.น่าน (102) จ.บึงกาฬ (82) จ.ตราด (54) จ.ระนอง (39) จ.กาญจนบุรี (35) กรุงเทพมหานคร (22)
ปริมาตรแหล่งน้ำทุกขนาด 46,290 ล้าน ลบ.ม. (56%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 41,469 ล้าน ลบ.ม. (58%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วง 1-3 วัน บริเวณ ภาคเหนือ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น ชัยภูมิ และกาฬสินธุ์ ภาคตะวันออก จ.ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี ภาคใต้ จ.ตรัง
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร (11 ก.ย. 66) มีการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และเติมน้ำต้นทุนอ่างเก็บน้ำ ได้มีฝนตกในพื้นที่ ดังนี้
จ.เชียงราย (เวียงป่าเป้า) จ.ลำปาง (เมืองปาน แจ้ห่ม วังเหนือ) จ.กำแพงเพชร (เมืองกำแพงเพชร ไทรงาม ลานกระบือ) จ.สุโขทัย (คีรีมาศ) จ.พิษณุโลก (บางระกำ) และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ จ.นครสวรรค์ (พยุหะคีรี ท่าตะโก) พื้นที่ลุ่มรับน้ำบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ จ.นครศรีธรรมราช (ลานสกา เมืองนครศรีธรรมราช พระพรหม ปากพนัง จุฬาภรณ์ เฉลิมพระเกียรติ ร่อนพิบูลย์ ชะอวด ทุ่งสง) ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช
สทนช. ชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พรบ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561
นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการ สทนช. เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามหมวด 5 แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 พร้อมด้วย ผู้แทนจาก 13 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและผ่านระบบออนไลน์ ณ ศูนย์การประชุม The Halls เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ และบทบัญญัติของพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง โดยมีการอภิปรายในหัวข้อ บทบาท หน้าที่และอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามหมวด 5 แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และการดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 รวมทั้งแนวทาง ขั้นตอน และวิธีการในการดำเนินการเกี่ยวกับการเกี่ยวกับการจ่ายค่าทดแทน ค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจาก การดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง และน้ำท่วม ดังนี้
กฎกระทรวง กำหนดค่าทดแทนให้แก่บุคคลซึ่งต้องเฉลี่ยน้ำที่กักเก็บไว้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่เขตภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรง พ.ศ. 2564
กฎกระทรวง ค่าชดเชยความเสียหายจากการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม พ.ศ. 2564
กฎกระทรวง ค่าทดแทนและค่าชดเชยความเสียหายจากการใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง และภาวะน้ำท่วม พ.ศ. 2564
กฎ ระเบียบ ประกาศอื่นที่เกี่ยวข้อง
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 12 กันยายน 2566 ดังนี้
- ผลการดำเนินงานตาม 12 มาตรการ รองรับฤดูฝน ปี 2566
1.1 กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง พร้อมท่อส่งน้ำยาว 200 เมตร สูบน้ำจากแหล่งน้ำต้นทุนห้วยบ้านไปเติมให้กับแหล่งน้ำผลิตระบบประปาหนองสาธารณะบ้านนาเรือง ณ บ้านนาเรือง หมู่ที่ 5,8 ตำบลนาผือ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีประชาชนได้รับประโยชน์ 2 หมู่บ้าน 375 หลังคาเรือน 1,250 คน
1.2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เข้าติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำในลำน้ำแม่เผื่อ เอ่อล้นเข้าท่วมเส้นทาง และ บ้านเรือนราษฎร จำนวน 30 หลังคาเรือน พร้อมทั้งสนับสนุนทราย จำนวน 2 คันรถ เพื่อทำแนวกั้นน้ำ ปัจจุบันระดับน้ำสูงจากพื้นถนน 20 ซม. ณ ชุมชน บ้านเหล่า หมู่ 6 ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย - สภาพอากาศ
ในช่วงวันที่ 11 – 14 ก.ย. 66 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 15 – 17 ก.ย. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก - การบริหารจัดการน้ำ การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์
นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามหมวด 5 แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 โดยมีผู้แทนจาก 13 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย สทนช. กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมการปกครอง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์การประชุม The Halls ซอยวิภาวดีรังสิต 64 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ และเข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และเมืองพัทยา เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ และบทบัญญัติของพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน