เลขา สคบ. จับมือ กรมควบคุมโรค ย่องเงียบหนองคาย-อุดรธานี
เลขา สคบ. จับมือ กรมควบคุมโรค ย่องเงียบหนองคาย-อุดรธานี เปิดปฏิบัติการ “ดับควันที่ริมโขง”
เลขา สคบ. นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ จับมือ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค มอบหมายศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. สนธิกำลังร่วม 4 หน่วยงาน เปิดปฏิบัติการ “ดับควันที่ริมโขง” ลุยกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า จังหวัดหนองคาย-อุดรธานี ภายหลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้ปกครองในพื้นที่เป็นจำนวนมาก แจ้งว่ามีการแอบลักลอบเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ใจกลางเมือง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่สำคัญมีลูกค้าที่ซื้อไปสูบเป็นเด็กและเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ห่วงกระทบต่อสุขภาพระยะยาว
ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. 66 เลขาธิการ สคบ. นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ. ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขา สคบ. มอบหมายให้นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการส่วนบังคับคดี ปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. นายฤทธิรอน ทวีทรัพย์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ สคบ. รวม 12 นาย สนธิกำลังร่วมกับ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สคบ. กรมควบคุมโรค โดยสำนักงานควบคุมโรคที่ 8 จังหวัดอุดรธานี สำนักงานด่านศุลกากรจังหวัดหนองคาย นำโดย นายสมบัติ ฆ้อนทอง ผอ.ส่วนควบคุมทางศุลกากร พร้อมปลัดอำเภอเมืองหนองคาย ลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียน เมื่อเดินทางไปถึงพบมีร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 4 ร้าน มีชื่อร้านว่า “สุดจัดปลัดบอก” ตามที่ประชาชนร้องเรียนจริงเจ้าหน้าที่ สคบ. จึงได้แสดงตัวพร้อมยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และของกลางทั้งหมด ไปสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายและผู้เกี่ยวข้องจำนวน 7 ราย ต่อมา วันที่ 7 ก.ค. 66 เจ้าหน้าที่ สคบ. พร้อมด้วยสำนักงานควบคุมโรคที่ 8 และ กอ.รมน. จังหวัดอุดรธานี ได้ลงพื้นที่ในตัวเมืองจังหวัดอุดรธานี ตรวจสอบการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าตามที่มีการรับแจ้งร้องเรียนมาที่ สคบ. พบมีร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 4 ร้าน จึงยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และของกลางทั้งหมด ไปสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายและผู้เกี่ยวข้อง
จำนวน 8 ราย
เลขา สคบ. กล่าวว่า “ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ สคบ. ต้องขอบคุณท่านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี กรมควบคุมโรค เป็นอย่างยิ่งที่ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมควบคุมโรค กอ.รมน. จังหวัดอุดรธานี สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จังหวัดหนองคายและจังหวัดอุดรธานีที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ การปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจาก สคบ. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมากว่า พบเห็นร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าแบบโจ่งแจ้งไม่เกรงกลัวกฎหมายมักเปิดร้านอยู่ใกล้สถานศึกษาจึงมีความเป็นห่วงอันตรายที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับนโยบายของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ที่ได้มอบนโยบายให้ สคบ. ดำเนินการกับผู้ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาดและรายงานผลการดำเนินการให้ทราบ ซึ่ง สคบ. ก็ต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนที่มีอำนาจตามกฎหมายต้องดำเนินการเพื่อให้กฎหมายสัมฤทธิ์ผล”
ส่วนผลจากการปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 29/9 วรรคสอง ประกอบมาตรา 56/4 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยึดของกลางเป็นเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวสูบพร้อมน้ำยา และอุปกรณ์ทั้งหมด รวม 17,465 รายการ รวมมูลค่าของกลางไม่ต่ำกว่า 5.5 ล้านบาท
หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่นั้น ๆ เพื่อดำเนินคดีได้ หรือแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 หรือเว็บไซต์ www.ocpb.go.th