สคบ. เปิดปฏิบัติการ “ดับควันซอยเสือใหญ่”
ลุยร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้ ม.ดังย่านซอยเสือใหญ่
เลขาธิการ สคบ. (นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์) สั่งกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบขายใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านซอยรัชดา 36 หลังจากที่มีประชาชนหลายรายร้องเรียนมาที่ สคบ. พบเห็นเด็กและเยาวชนได้เข้าไปซื้อมาสูบเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญอยู่ห่างสถาบันการศึกษาไม่ถึง 100 เมตร ต่อมา เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 66 เลขาธิการ สคบ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการ สคบ. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ สคบ. จำนวน 7 ราย สนธิกำลังร่วมกับ สน.พหลโยธิน ลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียน เมื่อไปถึงพบร้านที่ 1 ตั้งอยู่ริมถนนในซอยเสือใหญ่อุทิศ ชื่อร้าน AB VAPEพบมีการเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ให้แก่ลูกค้า เจ้าหน้าที่ สคบ. จึงได้แสดงตัวพร้อมยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และถัดไปประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่ สคบ. ได้เข้าตรวจสอบร้านที่ 2 ติดป้ายหน้าร้านใช้ชื่อ @ เสือใหญ่ มีรูปภาพบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อโฆษณาให้คนทราบ ภายในร้านพบมีบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หลายยี่ห้อวางขายอยู่ภายในตู้โชว์ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมยึดของกลางทั้งหมด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปร้านที่ 3 ซึ่งห่างกันไม่มาก พบกำลังเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้า มีการใช้ชื่อร้านว่า Relx cafe @เสือใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมยึดของกลางทั้งหมด และเชิญผู้ขายทั้ง 3 ร้านพร้อมของกลาง ไป สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบถ้อยคำผู้ขายทั้ง 3 ร้านดังกล่าวเพื่อประกอบการดำเนินคดีอยู่นั้น
ได้รับรายงานว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่ สคบ. เดินทางออกจากพื้นที่เพื่อเดินทางไปยังสน.พหลโยธิน ก็มีร้านขายบุหรี่ไฟฟ้ากลับมาเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า อีกโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย แม้ว่าเจ้าหน้าที่สคบ.เพิ่งลงพื้นที่ตรวจสอบก็ตาม เจ้าหน้าที่ สคบ. จึงได้ย้อนกลับไปตรวจสอบ พบมีร้านลักลอบเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้า อีกภายโดยใช้ชื่อว่าบ้านควันหอม จึงได้แแสดงตัวพร้อมยึดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ได้ มีเยาวชนจำนวนหลายรายมาติดต่อเพื่อขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า แต่เมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ สคบ. กำลังยึดของกลาวอยู่ ก็รีบเดินออกจากร้านไปโดยทันที ทั้งนี้ ผลจากการปฏิบัติการในครั้งนี้ สคบ.สามารถดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 29/9 วรรคสอง ประกอบมาตรา 56/4 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยในการปฏิบัติการครั้งนี้สามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 4 ร้าน จำนวน 8 ราย ยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ทั้งหมด รวมมูลค่าของกลางประมาณ 2 ล้านบาท ทั้งนี้ เลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า “ปัจจุบันการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า มีการพุ่งเป้าไปที่เด็กและเยาวชน มีการออกแบบผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มาหลากหลายรูปแบบ เพื่อดึงดูดเด็กและเยาวชน และการลักลอบขายใกล้สถานศึกษาถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันเพื่อป้องกันรวมทั้งการให้ความรู้พิษภัยของสินค้าอันตรายเหล่านี้ และบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันยังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องที่ให้ความสำคัญกับการกวดขันกวาดล้างซึ่งสินค้าเหล่านี้อย่างจริงจัง” ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่นั้น ๆ เพื่อจับกุมดำเนินคดีได้ หรือแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 หรือเว็บไซต์ www.ocpb.go.th