Skip to content
Fri. Nov 21st, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • NATIONAL

อินเดียครองแชมป์ประชากรโลก โอกาสของภาคส่งออกและท่องเที่ยว

17/03/2023 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,499

ปี 2566 อินเดียขึ้นแท่นแชมป์ประชากรโลกที่ 1.4 พันล้านคน และส่วนใหญ่ 51% อายุต่ำกว่า 30 ปี ขณะที่ชนชั้นกลางจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 31% ในปี 2563 เป็น 47% ในปี 2573 หรือคิดเป็น 715 ล้านคน สะท้อนฐานแรงงานคนรุ่นใหม่และฐานผู้บริโภคที่มีอำนาจซื้อสูงขนาดใหญ่ของโลก เป็นโอกาสต่อภาคส่งออกและท่องเที่ยวไทย

ภาคส่งออกไทยไปอินเดียยังมี Room to grow อีกมาก หลังจาก 10 ปีที่ผ่านมา อินเดียนำเข้าสินค้าไทยในสัดส่วนเฉลี่ยเพียง 1.4% โดยสินค้าไทยที่มีศักยภาพส่งออก ได้แก่ 1) สินค้าขั้นกลางเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ของอินเดีย เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ 2) สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องประดับ อาหารแปรรูป รวมถึงโปรตีนจากพืชซึ่งตอบโจทย์คนอินเดียที่รับประทานมังสวิรัติ

จะเห็นชาวอินเดียเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น ดังเช่นในช่วง 10 ปีก่อนเกิดโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 9.3% โดย Krungthai COMPASS คาดว่าจะมีชาวอินเดียมาเที่ยวไทยในปี 2566 จำนวน 1.5-1.8 ล้านคน จากปี 2565 ที่มี 9.98 แสนคน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9-2.1 ล้านคน ในปี 2567

ณ เวลานี้ หนึ่งในประเทศที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง คือ ประเทศอินเดีย เนื่องจากจะกลายเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกในอนาคตอันใกล้ โดยข้อมูลจาก IMF ชี้ว่าขนาดเศรษฐกิจของอินเดียจะขยับจากอันดับ 5 ของโลก ในปี 2565 ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ในปี 2570 เป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาและจีน หลังจาก GDP ขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัวก็ตาม โดย IMFคาดว่า GDP อินเดียจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 6% ต่อปีในช่วงปี 2566-67 เทียบกับเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ยเพียง 3% เท่านั้น (รูปที่ 1)

อินเดียกำลังเนื้อหอมในสายตาของการเป็นปลายทางการลงทุนและย้ายฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติดังเช่นในช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่มีข่าวว่า APPLE มีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากจีนไปสู่อินเดีย โดยวางเป้าหมายให้มีสัดส่วนการผลิตในอินเดียมากถึง 25% จากประมาณ 5-7% ในปัจจุบัน [1]เพื่อกระจายห่วงโซ่การผลิตไปยังประเทศอื่น ๆ และลดผลกระทบจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน เช่นเดียวกับ Samsung, LG, HP, Dell และอีกหลายบริษัทข้ามชาติ ที่หันมาใช้กลยุทธ์ “ChinaPlus One” มากขึ้น จนหลายฝ่ายต่างจับตามองว่าอินเดียอาจกลายเป็นอีกหนึ่ง “โรงงานโลก” ที่สำคัญในอนาคต

ปัจจัยเบื้องหลังสำคัญ คือ นโยบายของรัฐบาลอินเดีย บนเส้นทางของแนวคิด “Atmanirbhar Bharat” ซึ่งหมายถึง “อินเดียที่พึ่งพาตนเอง” และนโยบาย “Make in India” เพื่อยกระดับให้อินเดียเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าของโลก ผ่านมาตรการต่างๆ อาทิ สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำธุรกิจในอินเดีย (Ease of doing business) ส่งเสริมให้มีการตั้งฐานการผลิตในอินเดีย เช่น โครงการ PLI (Production Linked Incentive Scheme) ปรับปรุงกฎระเบียบ FDI เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติร่วมลงทุนกับ Start up เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในอินเดีย และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค และดิจิทัล ตลอดจนการลงทุนเพื่อนำพาอินเดียให้บรรลุเป้าหมาย Net zero emissions ในปี ค.ศ. 2070 เช่น เตรียมจัดสรรเงิน 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อลงทุนด้านพลังงานสะอาด [1]

อีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะมีบทบาทมากขึ้นในการสนับสนุนเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุนในอินเดีย คือ การมีประชากรและแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะ Tech talent ขณะที่เมื่อช่วงต้นปีนี้ มีข่าวใหญ่ที่สร้างความฮือฮาไม่น้อย นั่นคือ ในปี 2566 อินเดียกำลังจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจนมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก แซงหน้าเบอร์หนึ่งเดิมอย่างประเทศจีน อีกทั้งประชากรอินเดียยังอยู่ในวัยแรงงานหนุ่มสาว และมีสัดส่วนชนชั้นกลาง (Middle income class) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นั่นหมายถึงการเป็นฐานแรงงานและฐานผู้บริโภคที่มีอำนาจซื้อสูงขนาดใหญ่ของโลก ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่าการปันผลทางประชากร (Demographic Dividend) หรือโอกาสทางการขยายตัวของเศรษฐกิจที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของอินเดียแล้ว ยังเป็นโอกาสอันสำคัญสำหรับภาคธุรกิจทั่วโลกที่จะเจาะตลาดอินเดียที่มีมูลค่ามหาศาล ด้วยเหตุนี้ บทความฉบับนี้ โดย Krungthai COMPASS จึงได้ศึกษาว่าแนวโน้มของประชากรอินเดียเป็นอย่างไร และวิเคราะห์ว่าจะก่อให้ เกิดโอกาสต่อภาคส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยในมิติไหนบ้าง

ทิศทางประชากรอินเดียเป็นอย่างไร 

อินเดียขึ้นแท่นแชมป์ประชากรโลก สะท้อนฐานผู้บริโภคและฐานแรงงานขนาดใหญ่ที่สำคัญของโลก จากการประมาณการของสหประชาชาติ (UN) [1]ชี้ว่า ในปี 2566 จะเป็นปีแรกที่อินเดียขึ้นมามีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกที่ 1,429 ล้านคน คิดเป็น 17.8% ของประชากรโลก แซงหน้าประเทศจีนที่จะมีจำนวนประชากร 1,426 ล้านคน (รูปที่ 2) หลังจากในปี 2565 ที่ผ่านมา ประชากรจีนลดลงครั้งแรกในรอบ 60 ปี [2]และมีอัตราการเกิดลดต่ำลงต่อเนื่อง ขณะที่ในอีก 10 ปีข้างหน้า (ปี 2576) อินเดียจะมีประชากร 1,548 ล้านคน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 0.8% สูงกว่าจำนวนประชากรจีนอยู่ 141 ล้านคน หลังจากประชากรจีนมีแวโน้มลดลงเหลือ 1,407 ล้านคน หรือลดลงปีละ 0.13% 


ชนชั้นกลางของอินเดีย ซึ่งมีกำลังซื้อสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 
แม้ล่าสุดปี 2564 อินเดียจะมีรายได้ประชาชาติต่อหัว (Gross National Income (GNI) per capita) เพียง 2,150 ดอลลาร์สหรัฐฯ /คน/ปี ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางค่อนไปทางต่ำ (Lower-middle-income) [1]เป็นรองประเทศจีนและประเทศไทยที่ถือเป็นประเทศรายได้ปานกลางค่อนไปทางสูง (Upper-middle-income)  [2]แต่หลายฝ่ายมองว่าทิศทางรายได้ของอินเดียจะดีขึ้นมาก เช่น EY มองว่าในอีกเกือบ 25 ปีข้างหน้า รายได้ต่อหัวของคนอินเดียจะเพิ่มขึ้น 6 เท่าตัว นอกจากนั้น เมื่อพิจารณาสัดส่วนชนชั้นกลางพบว่ามีทิศทางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยจากงานวิจัยของ People Research on India’s Consumer Economy (PRICE) ชี้ว่าสัดส่วนชนชั้นกลาง (Middle class) ของอินเดียเพิ่มขึ้นจาก 26% ในปี 2558-59 เป็น 31% ในปี 2563-64 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 47% และ 61% ในอีก 8 ปี และเกือบ 25 ปีข้างหน้า หรือคิดเป็นจำนวนประชากร 715 ล้านคน และ 1,015 ล้านคน ตามลำดับ (รูปที่ 4) ควบคู่กับการเติบโตของสังคมเมือง (Urbanization) ซึ่งสะท้อนอำนาจซื้อและการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่จะสูงขึ้นอีกมาก

อย่างไรก็ดี การมีประชากรเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อาจสร้างความท้าทายต่ออินเดียในอนาคตได้ โดยเฉพาะปัญหาทางสังคมและปัญหาปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชน อาทิ ความท้าทายในการบริหารจัดการระบบสาธารณสุข ระบบรัฐสวัสดิการ การสนับสนุนการจ้างงาน การส่งเสริมการเข้าถึงระบบการศึกษา และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ดังเช่น ที่ Word Bank ประเมินว่าอินเดียจำเป็นต้องลงทุน 8.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับโครงสร้างพื้นฐานสังคมเมืองในอีก 15 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับประชากรเมืองที่เพิ่มขึ้นมาก นอกจากนั้น ยังรวมถึงความท้าทายในแง่การรักษาความมั่นคงทางอาหาร และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในมิติการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งหากขาดประสิทธิภาพในการรับมือ อาจเป็นภาระหรือฉุดรั้งเศรษฐกิจของอินเดียได้

โอกาสต่อภาคส่งออกไทย

การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ท่ามกลางเศรษฐกิจอินเดียที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง จะทำให้การอุปโภคบริโภค การผลิตเพื่อส่งออก รวมถึงการนำเข้าสินค้าทุน วัตถุดิบ และสินค้าอุปโภคบริโภคจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องจากในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 (Fiscal year) ที่อินเดียนำเข้าสินค้าคิดเป็นมูลค่ารวม 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากถึง 21.9% (yoy) จนทำให้ยืนอยู่ในระดับใกล้เคียงกับทั้งปี 2564 แล้วและเป็นระดับที่สูงกว่าในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (รูปที่ 5) โดยสินค้านำเข้าหลักๆ ได้แก่ น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม สินค้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทองคำ เครื่องจักร ถ่านหิน อัญมณี เม็ดพลาสติกและเคมีภัณฑ์ น้ำมันพืช เหล็กและเหล็กกล้า และปุ๋ย ทั้งนี้ แหล่งนำเข้าสำคัญของอินเดีย ได้แก่ จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย

อย่างไรก็ดี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน อินเดียนำเข้าสินค้าจากไทยเฉลี่ยเพียง 1.4% เท่านั้นเมื่อเทียบกับมูลค่านำเข้าทั้งหมดของอินเดีย สะท้อนโอกาส (Room to grow) ของภาคการส่งออกของไทยที่จะเจาะตลาดอินเดียได้อีกมากในอนาคต ภายใต้การใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย-อินเดีย และ FTA อาเซียน-อินเดีย ซึ่งอินเดียได้ยกเลิกภาษีนำเข้าให้กับสินค้าที่ส่งออกจากไทยสูงสุดกว่า 5 พันรายการ ทั้งนี้ ในปี 2565 ไทยส่งออกไปอินเดียจำนวน 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (3.64 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 22.5% (yoy) โดยอินเดียถือเป็นประเทศส่งออกสำคัญอันดับที่ 7 ของไทย ด้วยสัดส่วน 3.7% ของมูลค่าส่งออกของไทยทั้งหมด

สินค้าไทยที่มีศักยภาพส่งออกไปอินเดียเพื่อรับโอกาสการเติบโตของเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ 1) สินค้าขั้นกลางเพื่อไปเป็นวัตถุดิบใน Supply chain อุตสาหกรรมต่างๆ ของอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมพลาสติก บรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง และเครื่องอุปโภค โดยสินค้าไทยที่มีศักยภาพส่งออกไปอินเดีย อาทิ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ทองแดงและของที่ทำด้วยทองแดง และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ซึ่งในปี 2565 ที่ผ่านมา สินค้าเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่ม 15 สินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปอินเดียอยู่แล้ว (รูปที่ 6) 2) สินค้าอุปโภคและบริโภค  ทั้งที่ปัจจุบันมีการส่งออกไปอินเดียในปริมาณสูงเมื่อเทียบกับสินค้าส่งออกอื่นๆ ของไทย เช่น น้ำมันปาล์ม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศ เครื่องคอมพิวเตอร์ และสินค้าที่ปัจจุบันไทยยังมีการส่งออกไปอินเดียในสัดส่วนน้อย อาทิ สินค้าอาหารแปรรูป รวมถึงอาหารแห่งอนาคตอย่างโปรตีนจากพืช (Plant-basedMeat) ซึ่งตอบโจทย์คนอินเดียจำนวนมากที่รับประทานมังสวิรัติ

โอกาสต่อภาคการท่องเที่ยวไทย

การเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางจะทำให้ชาวอินเดียเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น ดังเช่นในช่วง 10 ปีก่อนเกิดโควิด-19 ที่พบว่าชาวอินเดียออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 9.3% จนแตะ 27 ล้านคน [1]ในปี 2562 ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญของคนอินเดีย โดยในปี 2565 มีชาวอินเดียมาเที่ยวไทยจำนวน 9.98 แสนคน มากเป็นอันดับที่ 2 รองจากมาเลเซีย คิดเป็น 50% ของช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีอยู่เกือบ 2 ล้านคน (อันดับที่ 3 รองจากจีนและมาเลเซีย) ขณะที่ ในปี 2566 Krungthai COMPASS คาดว่าจะมีชาวอินเดียมาท่องเที่ยวไทยจำนวน 1.5-1.8 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9-2.1 ล้านคน ในปี 2567 ตามความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง และมีจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น หลังจากมีสายการบินสนใจทำการเปิดเส้นทางบินใหม่และเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น เช่น เที่ยวบินจากเมืองรองในประเทศอินเดียมาไทย

ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง ร้านค้าปลีก ธุรกิจขนส่ง จะได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวอินเดีย ซึ่งใช้จ่ายสูงกว่าภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย โดยหากย้อนมองไปดูในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 พบว่านักท่องเที่ยวอินเดียมักเข้ามาเที่ยวไทยเฉลี่ย 7-8 วัน/ทริป คิดเป็นค่าใช้จ่าย 5,493 บาท/คน/วัน สูงกว่าภาพรวมของการท่องเที่ยวในไทยทั้งหมดที่อยู่ที่ 5,172 บาท/คน/วัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวอินเดียกว่า 27% ใช้ไปกับสถานที่พักและโรงแรม ขณะที่ 25% คือการช้อปปิ้ง และ 20% คือ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวอินเดียมีการใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงในสัดส่วน 12% ซึ่งสูงกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ในไทย สอดคล้องกับข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ระบุว่าคนอินเดียรุ่นใหม่มักชอบเที่ยวพัทยาเพื่อหาประสบการณ์ในการเที่ยวกลางคืน

ธุรกิจโรงแรมและการจัดงานเลี้ยงมีโอกาสจากคนอินเดียนิยมเข้ามาจัดงานแต่งงานในไทย ซึ่งงานแต่งแต่ละครั้งใช้งบประมาณสูงถึง 10-50 ล้านบาท [1]โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐี เนื่องจากการแต่งงานยังเป็นเรื่องสำคัญในสังคมอินเดีย และนิยมจัดงานแบบหรูหราเพื่อแสดงฐานะครอบครัว ซึ่งการจัดงานแต่งงานในไทยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะใช้งบประมาณเฉลี่ยอยู่ที่ 10-50 ล้านบาทต่อคู่ ต่ำกว่าที่ใช้จัดในอินเดีย 2-3 เท่า ทำให้ไทยกลายเป็น Wedding Destination ของคนอินเดียหลายคน ดังเช่นในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่พบว่ามีชาวอินเดียเดินทางเข้ามาแต่งงานในไทยไม่น้อยกว่า 400 คู่ต่อปี และแต่ละคู่ก็มีผู้เข้าร่วมงานหลักร้อยคน โดยสถานที่จัดงานแต่งงานที่ได้รับความนิยม คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต พังงา และ กระบี่ ทั้งนี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมาภูเก็ตได้รับการโหวตให้เป็น Best Wedding Destination (International) จากนิตยสาร Travel + Leisure India & South Asia ในงาน India’s Best Awards 2022

Implication & Recommendation:

Krungthai COMPASS มองว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรอินเดีย โดยเฉพาะประชากรในกลุ่มชนชั้นกลาง (Middle income class) ท่ามกลางเศรษฐกิจอินเดียที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงและการเดินตามนโยบาย “Make in India” ถือเป็นโอกาสสำคัญของไทย ทั้งในมิติภาคการส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการสามารถปรับตัวให้สอดรับโอกาสเหล่านี้ได้ ดังนี้ 

ศึกษาพฤติกรรมและวัฒนธรรมชาวอินเดียอย่างเข้าใจและรอบคอบ เนื่องจากประเทศอินเดียมีขนาดใหญ่แบ่งเป็น 29 รัฐ มีความหลากหลายทั้งด้านภูมิประเทศ ภูมิอากาศ วัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนา ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าและบริการที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เจาะจงและชัดเจน เพื่อจะได้ดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ตรงจุดมากที่สุด

อาจเริ่มจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อทดลองตลาดหรือหาพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partnership) เช่น งานแสดงสินค้าและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ตามความร่วมมือของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทย งานแสดงสินค้า “Praqati Maidan” ซึ่งเป็นงานใหญ่ที่สุดของกรุงนิวเดลี และงาน Global Investors Summit ในแต่ละรัฐของอินเดีย ทั้งนี้ การมีหุ้นส่วน ตัวแทนนำเข้าหรือตัวแทนการจำหน่ายในอินเดียจะช่วยให้การนำสินค้าไทยไปขายในอินเดียได้อย่างราบรื่นมากขึ้น เนื่องจากจะช่วยลดปัญหาหรือความยุ่งยากซับซ้อนเกี่ยวกับความเข้าใจในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกฎระเบียบของอินเดีย เช่น การบังคับให้ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าสินค้าที่ออกโดยหน่วยงานรัฐบาล (Central Licensing Authority) การปฏิบัติตามกระบวนการตรวจคุณภาพสินค้า อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของ Food Safety and Standard Authority of India (FSSAI) เป็นต้น 

ทดลองนำสินค้าไปขายผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce ที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคอินเดีย อาทิ Amazon, Flipkart และ PayTM รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์สินค้าเฉพาะทาง เช่น Snapdealและ Myntra สำหรับสินค้าเฟชั่น เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคอินเดียที่หันมาซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce มากขึ้น ดังที่งานวิจัยของ EY ชี้ว่า Retail e-commerce ในอินเดียปี 2564 เติบโต 27% ขณะที่ปี 2565 เติบโต 25.5% และคาดว่าจะขยายตัวปีละ 20% ในช่วงปี 2566-2573

นอกจากโอกาสในการส่งออกสินค้าและการต้อนรับนักท่องเที่ยวอินเดียแล้ว ยังมีโอกาสจากการลงทุนในอินเดียอีกด้วย โดยธุรกิจไทยที่มีความพร้อมอาจพิจารณาเข้าไปลงทุนเปิดบริษัท จัดตั้งบริษัทลูก หรือตั้งโรงงานในอินเดีย โดยเฉพาะธุรกิจใน 14 สาขาสำคัญที่อินเดียกำลังให้การส่งเสริมการลงทุนภายใต้มาตรการ PLI (Production-Linked Incentive Scheme) เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือโทรคมนาคม โซลาร์เซลล์ รถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ เคมีภัณฑ์ เหล็ก สิ่งทอ โดรนและส่วนประกอบ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังรวมถึงธุรกิจไทยที่มีศักยภาพ เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการสุขภาพและความงาม รวมถึงธุรกิจค้าปลีก ซึ่งอินเดียเปิดกว้างให้นักลงทุนต่างชาติถือหุ้น 100% ในกิจการค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์เดียว (Single Brand Retail) เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อย้อนดูเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในอินเดียในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561-2565) พบว่าโดยเฉลี่ยเป็นเงินลงทุนจากประเทศไทยเพียง 0.2% เท่านั้น ขณะเดียวกันก็พบว่าเงินลงทุนของไทยในอินเดียคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยแค่ 2.4% ของเงินลงทุนของไทยในต่างประเทศ

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: Krungthai Krungthai COMPASS กรุงไทย การท่องเที่ยว การส่งออก ธนาคารกรุงไทย ประชากรอินเดีย ประเทศอินเดีย อินเดีย

Continue Reading

Previous: ธ.ก.ส. พัฒนาฐานข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร
Next: ไทยพาณิชย์ ปรับจีดีพีไทยโต 3.9% จากเดิม 3.4%

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 พ.ย. 68

21/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568

21/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 พ.ย. 68

20/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568

20/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 พ.ย. 68

19/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568

19/11/2025
สลากสัญจรรอบหน้า 1 ธ.ค. 68 จังหวัดกำแพงเพชร สลากสัญจรรอบหน้า 1 ธ.ค. 68 จังหวัดกำแพงเพชร 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สลากสัญจรรอบหน้า 1 ธ.ค. 68 จังหวัดกำแพงเพชร

18/11/2025
รัฐบาล ซัพน้ำตา แจกบ้านถูกน้ำล้อมครัวเรือนละ 9 พันบาท รัฐบาล ซัพน้ำตา แจกบ้านถูกน้ำล้อมครัวเรือนละ 9 พันบาท 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

รัฐบาล ซัพน้ำตา แจกบ้านถูกน้ำล้อมครัวเรือนละ 9 พันบาท

18/11/2025
ครม. เห็นชอบ "แมวไทย" เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ครม. เห็นชอบ “แมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

ครม. เห็นชอบ “แมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ

18/11/2025
ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา "คนละครึ่ง พลัส" ต่อร้านค้า ลุยดิจิทัล ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา “คนละครึ่ง พลัส” ต่อ ร้านค้าลุยดิจิทัล 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา “คนละครึ่ง พลัส” ต่อ ร้านค้าลุยดิจิทัล

18/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 พ.ย. 68

18/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568

18/11/2025

China News

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม.

21/10/2025
LINEแชร์เลย! รถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในโลก CR450 เริ่มการทดลองใช้งานก่อนเปิดให้บริการบนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของจีน โดยสามารถทำความเร็วได้สูงสุดต่อขบวนถึง 453 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หนังสือพิมพ์ไซแอนซ์แอนด์เทคโนโลยีเดลี (Science... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

21/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

20/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

19/11/2025
กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง

18/11/2025
กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth” กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth”
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth”

18/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง

กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง

กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth”

กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth”

Energy Force

CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง

10/11/2025
LINEแชร์เลย! นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)... อ่านต่อ

Politics

584765562_1406324100858247_3141478825053389534_n รัฐบาลหนู อยู่ไม่ไหว ยุบสภาธันวาคม 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

รัฐบาลหนู อยู่ไม่ไหว ยุบสภาธันวาคม

21/11/2025
S__89849894_0 ปชน.จับพิรุธ “รัฐบาลอนุทิน” เร่งรัดรับซื้อไฟฟ้า เติมกระสุนไปเลือกตั้ง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

ปชน.จับพิรุธ “รัฐบาลอนุทิน” เร่งรัดรับซื้อไฟฟ้า เติมกระสุนไปเลือกตั้ง

20/11/2025
584552693_1440719324090379_3068688954646231354_n ‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘วราเทพ’ ขนทีมกลับค่ายแดง ปักธง ‘กำแพงเพชร’ ยกจังหวัด 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘วราเทพ’ ขนทีมกลับค่ายแดง ปักธง ‘กำแพงเพชร’ ยกจังหวัด

20/11/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

ธ.ก.ส. เปิดตัวระบบ EDMS ยกระดับประสิทธิภาพบริหารจัดการหนี้ ธ.ก.ส. เปิดตัวระบบ EDMS ยกระดับประสิทธิภาพบริหารจัดการหนี้ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ธ.ก.ส. เปิดตัวระบบ EDMS ยกระดับประสิทธิภาพบริหารจัดการหนี้

20/11/2025
มูลนิธิชาวปากพนังจัด “ปากพนังสังสรรค์” ครั้งที่ 51 ระดมทุนการศึกษา มูลนิธิชาวปากพนังจัด “ปากพนังสังสรรค์” ครั้งที่ 51 ระดมทุนการศึกษา 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

มูลนิธิชาวปากพนังจัด “ปากพนังสังสรรค์” ครั้งที่ 51 ระดมทุนการศึกษา

19/11/2025
“ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68 “ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

“ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68

05/11/2025
CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ย 7.25% เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • BUSINESS MOVEMENT

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68

27/10/2025

Recommend

ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา "คนละครึ่ง พลัส" ต่อร้านค้า ลุยดิจิทัล ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา “คนละครึ่ง พลัส” ต่อ ร้านค้าลุยดิจิทัล 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา “คนละครึ่ง พลัส” ต่อ ร้านค้าลุยดิจิทัล

18/11/2025
รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่ รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่ 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่

30/10/2025
"คนละครึ่ง พลัส" วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง “คนละครึ่ง พลัส” วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“คนละครึ่ง พลัส” วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง

29/10/2025
ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต

25/10/2025

Photo Stories

CP ALL เปิดเวที Approval Process Excellence Awards 2025 CP ALL เปิดเวที Approval Process Excellence Awards 2025 1 min read
  • PHOTO STORIES

CP ALL เปิดเวที Approval Process Excellence Awards 2025

20/11/2025
EXIM BANK พาผู้ประกอบการดูงาน “ทรอปิคานา ออยล์” ต้นแบบแปรรูปมะพร้าวส่งออก EXIM BANK พาผู้ประกอบการดูงาน “ทรอปิคานา ออยล์” ต้นแบบแปรรูปมะพร้าวส่งออก 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK พาผู้ประกอบการดูงาน “ทรอปิคานา ออยล์” ต้นแบบแปรรูปมะพร้าวส่งออก

19/11/2025
กสิกรไทย จับมือ EDEX แนะศึกษาต่อในสหราชอาณาจักรมุ่งสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ กสิกรไทย จับมือ EDEX แนะศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร มุ่งสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย จับมือ EDEX แนะศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร มุ่งสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ

19/11/2025
SME D Bank เยี่ยมชื่นชม 3 กิจการลูกค้าพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม SME D Bank เยี่ยมชื่นชม 3 กิจการลูกค้าพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม 1 min read
  • PHOTO STORIES

SME D Bank เยี่ยมชื่นชม 3 กิจการลูกค้าพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม

17/11/2025
CSR THAI CLUB จัดประชุมใหญ่–ลุยกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยและปลูกป่า CSR THAI CLUB จัดประชุมใหญ่–ลุยกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยและปลูกป่า 1 min read
  • PHOTO STORIES

CSR THAI CLUB จัดประชุมใหญ่–ลุยกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยและปลูกป่า

16/11/2025
สำนักงานสลาก สำนักงานสลากฯ มอบถุงยังชีพให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ต.บางตะไนย์ จ.นนทบุรี 1 min read
  • PHOTO STORIES

สำนักงานสลากฯ มอบถุงยังชีพให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ต.บางตะไนย์ จ.นนทบุรี

16/11/2025
EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้าสร้างรายได้ชุมชน EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้าสร้างรายได้ชุมชน 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้าสร้างรายได้ชุมชน

14/11/2025
ไทยเครดิต จัดพิธีถวายความอาลัยแด่ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ไทยเครดิต จัดพิธีถวายความอาลัยแด่ “สมเด็จพระพันปีหลวง” 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยเครดิต จัดพิธีถวายความอาลัยแด่ “สมเด็จพระพันปีหลวง”

14/11/2025
“ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์” ผนึกกำลัง กทม. และชุมชนสร้าง “CW Sustainable Art” “ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์” ผนึกกำลัง กทม. และชุมชนสร้าง “CW Sustainable Art” 1 min read
  • PHOTO STORIES

“ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์” ผนึกกำลัง กทม. และชุมชนสร้าง “CW Sustainable Art”

14/11/2025
กบข. กบข. ร่วมแชร์มุมมองการลงทุน ในงาน The 15th Annual Thailand Roundtable 1 min read
  • PHOTO STORIES

กบข. ร่วมแชร์มุมมองการลงทุน ในงาน The 15th Annual Thailand Roundtable

12/11/2025
กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025

07/11/2025
EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน

31/10/2025
BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

30/10/2025
IMG_4504 คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท. 1 min read
  • PHOTO STORIES

คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท.

30/10/2025
เมืองไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง 1 min read
  • PHOTO STORIES

เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง

28/10/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM