สรุปข่าวประจำวันที่ 28 มกราคม 2566

หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (27 ม.ค. ) ปิดที่ 33,978.08 จุด เพิ่มขึ้น 28.67 จุด (0.084%)เอสแอนด์พี ปิดที่ 4,070.56 จุด เพิ่มขึ้น 10.13 จุด (0.25%) หุ้นแนสแดด ปิดที่ 12,166.60 จุด เพิ่มขึ้น 115.12 จุด (0.96%) ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดตลาด(27 ม.ค.) ที่ระดับ 1,681.30 จุด เพิ่มขึ้น 9.96 จุด 0.60%มูลค่าการซื้อขาย 57,808.46 ล้านบาท
ทองคำลง 100 บ. : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ29,750.00 ขายออกบาทละ 29,850.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 29,319.44 บาท ขายออกบาทละ 30,450 .00บาท ราคาทองคำลง 100 บ. เมื่อเทียบกับวันที่ 26 ม.ค.
เงินบาททรงตัว : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (27 ม.ค.) ทรงตัว โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 32.877 บาท บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 33.0269 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 41.1689 บาทต่อ 1 ปอนด์, 36.1295 บาทต่อ 1 ยูโร , 25.6971 บาท ต่อ 100 เยน, 4.2370 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาท 25.3429 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.8875 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
บิ๊กป้อม แคนดิเดตนายกฯ :
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ครั้งที่ 1/ 2566 ณ ห้องประชุมใหญ่ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่ประธานการประชุมแทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากติดภารกิจ ที่ได้รับอำนาจหน้าที่ประชุมแทนในตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอ ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพียงรายชื่อเดียว ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบเป็นเอกฉันท์
ทีมสมคิด ซบ พปชร. :
ความเคลื่อนไหวพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) มีความคืบหน้าการเจรจาควบรวมพรรค กับพรรคไทยสร้างไทย จากการพูดคุยล่าสุด แกนนำทั้งสองพรรคยังไม่สามารถตกลงรายละเอียดและเงื่อนไขกันได้ โดยมีรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา แกนนำพรรค สอท. ได้เจรจากับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และมีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง เบื้องต้นพรรค สอท. จะเข้ามาช่วยดูในเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ก่อตั้งพรรค สอท. ชุดปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นอดีตผู้บริหารและสมาชิกพรรค พปชร. ที่แยกตัวออกไป หลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ยกทีม 4 กุมาร ลาออกจากคณะรัฐมนตรี
KBankขึ้นดอกเบี้ยเริ่ม 30 ม.ค.นี้
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เห็นควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MLR MOR และ MRR 0.10% – 0.20% ต่อปี โดย 1.อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จาก 6.520% เป็น 6.620% ต่อปี 2.อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) จาก 6.150% เป็น 6.350% ต่อปี 3.อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 6.745% เป็น 6.895% ต่อปี พร้อมกันนี้ ธนาคารปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขึ้น 0.05% – 0.25% ต่อปี ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป
ไทยพาณิชย์ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% :
ธนาคารกสิกรไทย แจ้งทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามรายละเอียดดังนี้ 1.อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับจาก 6.37% เป็น 6.57% 2.อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับจาก 6.74% เป็น 6.89% 3.อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับจาก 6.50% เป็น 6.60% โดยให้มีผลในวันที่ 30 ม.ค. 2566 เป็นต้นไป
ธ.ก.ส.ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.125 – 0.25% :
ธ.ก.ส. ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทเพิ่มขึ้น 0.125% – 0.25% ต่อปี ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายคนชั้นดี (MRR) ปรับเพิ่มขึ้น 0.125% ต่อปี จากปัจจุบันที่ 6.50% เป็น 6.625% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยลูกค้าสถาบันและนิติบุคคลชั้นดี (MLR) ปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี จากปัจจุบันที่ 4.875% เป็น 5.125% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ต่อปี จากปัจจุบันที่ 6.25% เป็น 6.50% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2566 เป็นต้นไป