‘ศุลกากร’ จับกุมเนื้อสุกรแช่แข็งลักลอบเข้าประเทศทางภาคใต้น้ำหนัก 12,000 กิโลกรัม
กรมศุลกากรจับกุมเนื้อสุกรแช่แข็งซุกซ่อนในรถบรรทุก จำนวน 12,000 กิโลกรัม รวมมูลค่า 3,000,000.00 บาท บริเวณริมทางหลวงชนบท 2004 จังหวัดสงขลา
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษา
ด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรไทย กรมศุลกากรจึงให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่าง ๆ เข้มงวดในการตรวจค้นจุดที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรเข้ามาในประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ASF ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค พร้อมปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 จังหวัดสงขลา ได้ทำการตรวจค้นรถยนต์บรรทุก 12 ล้อ บริเวณริมทางหลวงชนบท 2004 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ผลการตรวจค้นพบ ชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง มีถิ่นกำเนิดต่างประเทศ บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกมีข้อความภาษาต่างประเทศ โดยไม่พบเอกสารใบอนุญาตนำเข้าหรือเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติพิธีการทางศุลกากร จำนวน 12,000 กิโลกรัม รวมมูลค่า 3,000,000.00 บาท
การกระทำดังกล่าว อาจเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 246 และ/หรือ มาตรา 247 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 จึงเป็นของอันพึงต้องริบตามมาตรา 166 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 เจ้าของผู้มีสิทธิหรือผู้ครอบครอง อาจมีความผิดตามมาตราดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้อาศัยอำนาจ ตามมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560
โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า จากสถิติการจับกุมการลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรที่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนก.ค. 2565 ถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งหมด 12 คดี รวม 172,800 กิโลกรัม มูลค่า 35,306,000.00 บาท ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะส่งมอบเนื้อสุกรแช่แข็งให้กรมปศุสัตว์เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป