สรุปข่าวประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (21 พ.ย. ) ลดลง 45.41 จุด (0.13%) ปิดที่ 33,700.28 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 15.40 จุด (0.39%)ปิดที่ 3,949.94 จุด หุ้นแนสแดด ลดลง 123.57 จุด (1.06%)ปิดที่ 11,553.45 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดตลาด(21 พ.ย.) ที่ระดับ 1,618.86 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด (0.09%)มูลค่าการซื้อขาย 52,581.93 ล้านบาท
น้ำมันโลก :ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 35 เซนต์ ปิดที่ 79.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 87.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทองคำขึ้น 50 บ. : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,750.00 ขายออกบาทละ 29,850.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 29,213.32 ขายออกบาทละ 30,350.00 บาท ราคาทองคำขึ้น 50 บ. เมื่อเทียบกับวันที่ 20 พ.ย.
เงินบาทอ่อนทรงตัว : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ ( 21 พ.ย.) อ่อนค่าลง โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 36.063 บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 36.2110 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.1112 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.4527 บาทต่อ 1 ยูโร , 26.0222 บาท ต่อ 100 เยน, 4.6548 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาท 26.4542 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.9915 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
GDP ไทย Q3 โต 4.5%
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/65 ขยายตัวได้ 4.5% เทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า และขยายตัวได้ 1.2% จากไตรมาสก่อนหน้า สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 65 คาดว่าจะขยายตัว 3.2% เร่งขึ้นจาก 1.5% ในปี 64 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อปี 65 คาดว่าจะอยู่ที่ 6.3% การส่งออก ขยายตัว 7.5% การนำเข้า ขยายตัว 17.8% ดุลการค้าเกินดุล 19.1 พันล้านดอลลาร์ และขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 3.6% ต่อ GDP โดยคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในปี 65 จะอยู่ที่ 5.7 แสนล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10.2 ล้านคน
ส.ว.ยื้อ ประชามติ :
การประชุมวุฒิสภา(ส.ว.) พิจารณาญัตติด่วน การพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบผลการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรในญัตติขอให้สภาฯ มีมติส่งเรื่องที่มีเหตุสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ โดยสมาชิกวุฒิสภาผลัดเปลี่ยนกันอภิปรายต่อญัตติดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยที่ประชุม เห็นด้วย 151 เสียง ไม่เห็นด้วย 26 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง ไม่มี โดยให้มีกรรมาธิการ จำนวน 26 คน เป็นตัวแทนมาจากคณะกรรมาธิการสามัญวุฒิสภาแต่ละคณะ มีกรอบพิจารณาศึกษาภายในเวลา 30 วัน
จุรินทร์ กระทู้ปรับ ครม. :
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับการปรับ ครม. ได้ส่งชื่อบุคคลที่จะมาแทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ซึ่งก็คือนายนริศ ขำนุรักษ์ ไปหลายสัปดาห์แล้ว และก็เห็นใจว่านายกฯ คงยุ่งอยู่กับ เอเปค แต่เมื่อเอเปคจบแล้ว ก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาที่นายกฯ จะได้ช่วยดำเนินการได้ เพราะคนอื่นดำเนินการไม่ได้ ตนจะดำเนินการเองก็ไม่ได้ พรรคประชาธิปัตย์ทำเองก็ไม่ได้ มันต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ กติกา ท่านนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเท่านั้นที่จะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ
จี้ กสทช.ตรวจสอบถ่ายทอดสด :
สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) เข้ายื่นหนังสือถึงกรรมการ กสทช. เพื่อวินิจฉัยหลักการการจัดสรรการถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2022 ให้จัดสรรการถ่ายทอดสดแก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงทั้ง 64 คู่ตลอดการแข่งขัน หลังมีข้อพึงสังเกตถึงความไม่ถูกต้องในการจัดสรรการถ่ายทอด จึงขอให้คณะกรรมการ กสทช. วินิจฉัยว่า การจัดสรรสิทธิการถ่ายทอดสดของ กกท. เป็นไปโดยชอบ และขัดกับหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” ของ กสทช.หรือไม่อย่างไร