สคบ.จับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่
“แถลงข่าว สคบ. ร่วมกับ บก.สอท. ยึดบุหรี่ไฟฟ้า นำมาขายผ่านออนไลน์ล็อตใหญ่หลายสิบล้านบาท”
นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ (เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) พร้อมด้วยพ.ต.อ. ประทีป เจริญกัลป์ (รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) นายอุฬาร จิ๋วเจริญ (รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล (รอง ผบ.ตร.) และนายจิระวัฒน์ อยู่นะบาย (รักษาการ ผอ. กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวการยึดบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีการขายผ่านออนไลน์ล็อตใหญ่หลายสิบล้านบาท ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมืองทองธานี
ตามที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีความห่วงใยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนรวมถึงเยาวชน อันเนื่องมาจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันบังคับใช้กฎหมายแก่ผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มอบหมายให้ สคบ. ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและรายงานผลให้ทราบนั้น
ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ว่ามีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ในพื้นที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงโดยมีการขนส่งผ่านทางไปรษณีย์ไทย
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2565 นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นำโดย พันตำรวจเอก ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และนายเลิศศักดิ์ รักธรรม หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ สคบ. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กก.1 บก.สอท.2 ) และ สภ.หนองแค ร่วมสืบสวนกรณีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ว่ามีการลักลอบนำเข้าสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อนำไปขายผ่านช่องทางออนไลน์ จึงได้ทำการสืบสวนพบเว็บไซต์ ttps://www.thisissalts.com/ เพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/thisissaltsofficia และอินสตราแกรม https://instagram.com/thisissalts_official?igshid=YmMyMTA2M2Y= และใช้การขนส่งโดยใช้ไปรษณีย์ ซึ่งสำแดงเป็นผลิตภัณฑ์อื่น จาก อ.ตากใบ จว.นราธิวาส ส่งมายัง อ.หนองแค จว.สระบุรี จึงได้เฝ้าติดตามจนทราบว่าจะมีพัสดุมาถึง อ.หนองแค ในวันที่ 16 พ.ย.65 ต่อมาเวลาประมาณ 09.30 น. ได้พบนายสันติ ถนอมทรัพย์ (ทราบชื่อภายหลัง) อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/4 หมู่ 4 ต.หนองโรง อ.หนองแค จว.สระบุรี เดินทางเข้ามารับพัสดุที่ทำการไปรษณีย์หนองแค โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น แอล200 หมายเลขทะเบียน บพ4558 สระบุรี จากนั้นได้ขนพัสดุมีลักษณะเป็นกล่องลังจำนวนมากขึ้นบรรจุไว้ที่ท้ายกระบะรถ เมื่อนายสันติฯ รับพัสดุเสร็จเรียบร้อย เจ้าพนักงานชุดสืบสวนได้แสดงตนและขอทำการตรวจสอบพัสดุดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบว่า เป็นน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 46 ลัง ภายในลังบรรจุ 150 กล่อง และภายในกล่องบรรจุ 10 ชิ้น รวมจำนวนประมาณ 69,000 ชิ้น ซึ่งมูลค่าในท้องตลาด ซื้อขายราคาชิ้นละ 200 บาท รวมเป็นมูลค่าประมาณ 13,800,000 บาท จากสอบถามนายสันติฯ ให้ถ้อยคำว่า ตนได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.มิกซ์ ให้มารับน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 46 ลัง ดังกล่าว และให้นำไปส่งที่ ร้านพีท สติ๊กเกอร์ บ้านเลขที่ 89/37 หมู่ 11 ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จว.สระบุรี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตร. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นบ้านเลขที่ 89/37 หมู่ 11 ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จว.สระบุรี เพื่อทำการขยายผล ต่อมาศาล จว.สระบุรี ได้อนุมัติหมายค้น ที่ ค196/2565 ลง 16 พ.ย.65 จึงได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 89/37ฯ ซึ่งใช้เป็นสำนักงานและสถานที่สำหรับเก็บบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อสำหรับจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ โดยนายสันติฯ เป็นผู้นำตรวจค้น พร้อมผู้ใหญ่บ้านและฝ่ายปกครอง เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวที่ใช้เป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีผู้พักอาศัย ผลการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า รวมจำนวนประมาณ 229 ลัง หรือประมาณ 229,000 ชิ้น มูลค่าในท้องตลาดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 45,800,000 บาท จึงได้ทำการตรวจยึด และนำตัวนายสันติฯ พร้อมของกลาง ส่ง พงส.กก.1 บก.สอท.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาในเวลา 17.30 น. วันเดียวกันพนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. และ บก.สอท. ได้ร่วมเข้าตรวจสอบที่ศูนย์ไปรษณีย์ พระนครศรีอยุธยา โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ไปรษณีย์ ฯ ให้ความสะดวกนำพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้าและหัวดูดบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 40 ลัง 29,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 7.4 ล้านบาท พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการยึด อายัดสินค้าเพื่อประกอบการดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ การจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 ลงวันที่ 28 ม.ค. 2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” อันเป็นความผิดตามมาตรา 29/9 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 56/4 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522
ล่าสุด โรงพยาบาลรามาธิบดีได้มีการพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงโดยมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้ง ปัจจุบัน ผู้ลักลอบจำหน่ายได้เปลี่ยนแปลงช่องทางในการจำหน่ายที่หลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น รวมถึงการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้กับสถานศึกษา ทำให้เยาวชนไปซื้อมาสูบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยในระยะยาว ดังนั้น หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 หรือเว็บไซต์ www.ocpb.go.th