Skip to content
Sat. Sep 20th, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • HOT NEWS
  • NATIONAL

เกาะเทรนด์ธุรกิจ IVF หลังวิกฤติโควิด-19

25/10/2022 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,123

ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง โดยคาดว่า ภาพรวมตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะระดับ 2.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 16.4% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 เกือบ 3 เท่า

ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ของไทยจะมีมูลค่าประมาณ 3.3 พันล้านบาทในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.0% เพิ่มขึ้นจากปี 2563 1.5 เท่า

ปัจจัยสนับสนุนสำคัญของตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF คือ การขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากนโยบายของจีนที่อนุญาตให้มีบุตรเพิ่ม ทั้งนี้ ในปี 2570 ตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะระดับ 3.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 14.2% ต่อปี

ปัจจุบันภาวะมีบุตรยากเป็นปัญหาที่พบบ่อยขึ้น และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับคู่สามีภรรยายุคใหม่ทั่วโลก จนในที่สุดองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้ภาวะมีบุตรยากเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษา ซึ่งสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก คือ วิถีการดำเนินชีวิตในปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับมลภาวะ ความคร่ำเคร่งและความเครียดจากการทำงาน รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่จัด นอกจากนี้ คู่สามีภรรยายุคใหม่มีแนวโน้มที่จะแต่งงานและพร้อมที่จะมีบุตรช้าลง เนื่องจากใช้เวลาหมดไปกับการเรียน การทำงาน อีกทั้งยังมีทัศนคติที่จะมีบุตรเมื่อมีความพร้อมด้านการเงินหรือหน้าที่การงานแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ความพร้อมดังกล่าวจะมาพร้อมกับอายุที่มากแล้ว ส่งผลให้สมรรถภาพการมีบุตรลดลง

ทั้งนี้ ข้อมูลของ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ของสหรัฐอเมริกา พบว่า การตั้งครรภ์ของสตรีกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนจากข้อมูลล่าสุดในปี 2561 อัตราการคลอดบุตรของสตรีอายุ 35 ปีขึ้นไปในสหรัฐอเมริกา คือ 65.3 (คน) ต่อประชากรหญิงวัยเดียวกัน 1,000 คน เพิ่มขึ้น 13.8% จากปี 2551 ที่มีค่าเท่ากับ 57.4 (คน) ต่อประชากรหญิงวัยเดียวกัน 1,000 คน สอดคล้องกับแนวโน้มการตั้งครรภ์ของสตรีกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป ของไทย ซึ่งในปี 2561 อัตราการคลอดบุตรของสตรีอายุ 35 ปีขึ้นไป เท่ากับ 40.5 (คน) ต่อประชากรหญิงวัยเดียวกัน 1,000 คน เพิ่มขึ้น 14.7% จากปี 2551 ที่มีค่าเท่ากับ 35.3 (คน) ต่อประชากรหญิงวัยเดียวกัน 1,000 คน

ด้วยเหตุผลข้างต้นจะป็นตัวช่วยผลักดันให้ตลาดการทำเด็กหลอดแก้ว หรือที่เรียกกันเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ว่า IVF (In-vitro Fertilization) มีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต เพราะนอกจากจะช่วยให้โอกาสตั้งครรภ์สำเร็จสูงขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการแท้งบุตร และช่วยให้มีโอกาสที่ได้บุตรที่ปกติ แข็งแรง ไม่มีโรคผิดปกติทางพันธุกรรม รวมถึงสามารถกำหนดช่วงเวลาที่จะวางแผนจะตั้งครรภ์ได้

และก่อนที่จะไปดูว่ามูลค่าตลาด IVF จะมีโอกาสเติบโตได้มากน้อยแค่ไหน เรามาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่เรียกว่า IVF กันก่อน

ทำความรู้จักกับ…เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์

เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ((Assisted-reproductive Technologies; ARTs) ได้เข้ามามีบทบาท และเป็นตัวช่วยตอบโจทย์คู่สมรสที่อยากมีบุตรแต่กลับต้องเผชิญปัญหาภาวะผู้มีบุตรยาก ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่สำคัญจะเข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์มีหลากหลายประเภท ได้แก่

การทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF (In-vitro Fertilization)

เป็นการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย โดยการนำไข่และอสุจิมาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธิภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจึงจะนำไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว (ตัวอ่อน) ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป [1]ซึ่งปัจจุบันแบ่งการรักษาเป็น 2 แบบ คือ IVF without ICSI (เรียกสั้นๆ ว่า IVF) เป็นการทำเด็กหลอดแก้วแบบเดิม และ IVF with ICSI (เรียกสั้นๆ ว่า อิ๊กซี่, ICSI: Intracytoplasmic Sperm Injection) ซึ่ง IVF กับ ICSI นั้น จะแตกต่างกันตรงที่การรักษาด้วยวิธี ICSI แพทย์จะทำการคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรงที่สุดตัวเดียว แล้วใช้เข็มฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง ขณะที่ IVF แบบธรรมดาจะนำไข่และอสุจิหลายตัวไปผสมในจานเพาะเลี้ยง โดยปล่อยให้อสุจิตัวที่แข็งแรงที่สุดว่ายเข้ามาผสมกับเซลล์ไข่ตามธรรมชาติ

การผสมเทียมโดยการฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก หรือ IUI (Intrauterine Insemination)

เป็นการฉีดน้ำอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งแพทย์จะนำอสุจิของฝ่ายชายไปคัดกรอง เพื่อเลือกตัวอสุจิที่ยังมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้ดี ร่วมกับให้ยากระตุ้นไข่ฝ่ายหญิง[2]

การทำซิฟต์ หรือ ZIFT (Zygote Intrafallopian Transfer)

การย้ายตัวอ่อนระยะเซลล์เดียว เข้าไปในท่อนำไข่ เพื่อให้มีการฝังตัวในโพรงมดลูก[3]

การทำกิฟต์ หรือ GIFT (Gamete Intrafallopian Transfer)

เป็นการดูดเอาไข่ที่ถูกกระตุ้นออกมาจากรังไข่ แล้วนำมาผสมกับตัวอสุจิที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว จากนั้นจึงฉีดเข้าไปในท่อนำไข่ทันที เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิตามธรรมชาติ เมื่อไข่และอสุจิมีการปฏิสนธิกัน ตัวอ่อนจะเคลื่อนตัวไปตามท่อนำไข่แล้วฝังตัวอยู่ในโพรงมดลูก หลังจากนั้นก็จะเกิดการตั้งครรภ์ในที่สุด[4]

การทำอิมซี่ หรือ IMSI (Intracytoplasmic Morphologically Selected Sperm Injection)

เป็นการคัดเลือกอสุจิด้วยกล้องจุลทรรศน์ ที่มีกำลังขยายสูงตั้งแต่ 6,000-12,000 เท่า เพื่อให้ได้อสุจิที่มีลักษณะดี และเหมาะสมที่สุดมาทำการผสมกับเซลล์ไข่ต่อไป

การฝากไข่ หรือ การแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ (Egg Freezing)

เป็นการนำเซลล์ไข่ที่อยู่ในรังไข่ของผู้หญิง มาเข้าสู่กระบวนการแช่แข็งแบบรวดเร็วด้วยเทคนิคการแช่แข็งแบบผลึกแก้ว (Vitrification Freezing) เพื่อคงสภาพของเซลล์ไข่ไว้ ณ เวลานั้นๆ เพื่อเก็บรักษาเซลล์ไข่ไว้ใช้ในการตั้งครรภ์ในเวลาที่พร้อม ซึ่งควรแช่แข็งไข่ในช่วงที่อายุน้อยกว่า 35 ปี เนื่องจากโดยทั่วไปผู้หญิงจะเริ่มประสบภาวะมีบุตรยากที่ช่วงอายุมากกว่า 35 ปีขึ้น [1]

ทั้งนี้ IVF เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากที่มีโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จสูงที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีการรักษาอื่นๆ และยังไม่ต้องใช้การผ่าตัด ซึ่งจากข้อมูลจาก Allied Market Research ระบุว่า ในปี 2562 การรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IVF ทั่วโลก มีมูลค่าตลาดมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนกว่า 86.9% ของมูลค่าตลาดการรักษาผู้มีบุตรยากทั่วโลก และคาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 90% ในปี 2570

ตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากยังสดใส หลังโควิด-19 คลี่คลาย และจีนปรับนโยบายประชากรครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยอนุญาตให้มีลูกได้ 3 คน ช่วยหนุนตลาด IVF ให้เติบโต

ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยาก (Fertility Tourism) คือกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาภาวะมีบุตรยาก หรือการท่องเที่ยวเพื่อการมีบุตร ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าสู่กระบวนการรักษาโดยการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์มาเป็นตัวช่วยในการตั้งครรภ์ ซึ่งคาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง โดยกลุ่มลูกค้าสำคัญยังคงเป็นชาวจีน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2564 ทางการจีนได้ประกาศอนุญาตให้ประชาชนมีลูกได้มากขึ้นเป็น 3 คน ถือเป็นการสิ้นสุดนโยบายที่กำหนดให้มีลูกได้ไม่เกิน 2 คน ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้ตลาด ท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากเติบโตในอนาคตข้อมูลจาก Allied Market Research ระบุว่า ในปี 2570 ตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากทั่วโลกจะมีมูลค่าแตะระดับ 3.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 14.2% ต่อปี (ปี 2562-2570) ซึ่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงที่สุด โดยจะมีมูลค่ากว่า 5.62 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเฉลี่ย 14.7% ต่อปี (ปี 2562-2570) สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของ Fertility Tourist ได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย ไทย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ทั้งนี้ คาดว่าตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากของไทย ในปี 2570 จะมีมูลค่ากว่า 1.96 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 14.6% ต่อปี (ปี 2562-2570)

อนาคตตลาด IVF ยังมีแนวโน้มเติบโตหลังโควิด-19 คลี่คลาย

อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย คือการทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF ซึ่งมี 2 วิธี คือ คือ IVF without ICSI (เรียกสั้นๆ ว่า IVF) เป็นการทำเด็กหลอดแก้วแบบเดิม และ IVF with ICSI (เรียกสั้นๆ ว่า อิ๊กซี่, ICSI: Intracytoplasmic Sperm Injection) สำหรับการรักษาแบบ ICSI นั้น จะแตกต่างจากการรักษาวิธี IVF ตรงที่ IVF จะเป็นการปฏิสนธิภายนอกร่างกายที่ปล่อยให้มีการคัดเลือกตามธรรมชาติ โดยการนำไข่และอสุจิหลายตัวจะถูกนำไปผสมในจานเพาะเลี้ยง ซึ่งอสุจิตัวที่แข็งแรงที่สุดจะว่ายเข้ามาผสมกับเซลล์ไข่ตามธรรมชาติ แต่ ICSI แพทย์จะทำการคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรงที่สุดตัวเดียว แล้วใช้เข็มฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง ซึ่งวิธี ICSI จะช่วยให้มีโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จค่อนข้างสูง

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 17.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2562 ก่อนจะหดตัวลงจะเหลือมูลค่าเพียง 8.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 แต่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัว และมีมูลค่าสูงแตะระดับ 2.31 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (ปี 2563-2570) 16.4% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2563 เกือบ 3 เท่า

ทั้งนี้ ตลาดเอเชียแปซิฟิกมีสัดส่วนมูลค่าตลาดมากที่สุดเกือบ 50% ของมูลค่าตลาดรวม (ปี 2562)โดยคาดว่าภายในปี 2570 จะมีมูลค่าตลาด 1.32 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นสามเท่าจากปี 2563 ที่มีมูลค่า 3.99 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 18.6% (2563-2570)

ตลาด IVF ของไทยยังมีแนวโน้มเติบโต โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจาก Fertility Tourism ที่ฟื้นตัวและโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระยะข้างหน้า

Krungthai COMPASS มองว่า ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ในไทยยังมีโอกาสเติบโตสอดคล้องกับเทรนด์ในต่างประเทศ เนื่องจากไทยมีชื่อเสียงและคุณภาพการรักษาเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยจุดเด่นสำคัญที่นอกเหนือจากชื่อเสียงของแพทย์ คุณภาพและมาตรฐานการรักษา และการบริการที่ดีจากแพทย์และพยาบาล คือ ค่ารักษาพยาบาลในไทยถูกกว่าประเทศคู่แข่งและประเทศชั้นนำอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งจากข้อมูลของ Medical Tourism Association พบว่า ค่าบริการการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ต่อครั้ง ของไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4,100 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 135,000 บาท) ถูกกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 67% และยังถูกกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาคอย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย ถึง 72% และ 41% ตามลำดับ

โดยเรามองว่า การเติบโตของตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยวิธีการทำเด็กหลอดแก้วทั้ง IVF และ ICSI จะเข้ามามีบทบาทในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจบริการทางการแพทย์ของไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเฉพาะทางด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ตลาดนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด คือ การขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยาก หรือที่เรียกว่า Fertility Tourism ซึ่งกลุ่มลูกค้าสำคัญยังคงเป็นชาวจีนที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง และจีนยกเลิกนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์แบบพลวัต (Dynamic Zero COVID)” อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์จากที่ทางการจีนได้ประกาศนโยบายส่งเสริมการมีบุตรคนที่ 3 ของกลุ่มคู่สมรสชาวจีนเมื่อ พ.ค. 2564 นอกจากนี้ หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้ภาวะมีบุตรยากเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษา ทำให้กระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดที่จะแก้กฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญบางมาตราเพื่อให้คู่สามีภรรยาชาวต่างชาติสามารถเข้ามาทำการอุ้มบุญในไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาด IVF ในอนาคต

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Allied Market Research ระบุว่า ในปี 2563 การบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ของไทย ได้รับผลระทบจากวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้มีการล็อคดาวน์ จนส่งผลให้มูลค่าตลาดลดลงเหลือเพียง 66.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.2 พันล้านแต่คาดว่า มูลค่าตลาดจะกลับมาฟื้นตัวได้ และมีมูลค่าแตะระดับ 99.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.3 พันล้านบาทในปี 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (ปี 2563-2570) 6.0% ต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2563 กว่า 1.5 เท่า

ไทยพร้อมหรือยัง? ที่จะเป็นศูนย์กลางด้าน IVF

ประเทศไทยมีศักยภาพและมีชื่อเสียงในการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยปัจจุบัน (ณ 13 ก.ย. 2565) มีสถานพยาบาลของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจำนวน 103 แห่ง แบ่งเป็น สถานพยาบาลภาครัฐ 16 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 31 แห่ง และคลินิกอีก 56 แห่ง

โดยจุดเด่นสำคัญที่นอกเหนือจากชื่อเสียงของแพทย์ คุณภาพและมาตรฐานการรักษา และการบริการที่ดีจากแพทย์และพยาบาล คือ ค่ารักษาพยาบาลในไทยถูกกว่าประเทศคู่แข่งและประเทศชั้นนำอย่างสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ของไทย แยกตามประเภทสถานพยาบาล พบว่า คลินิกเฉพาะทางด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก (Fertility Clinics) มีสัดส่วนมากที่สุด โดยครองส่วนแบ่งตลาดเกือบ 60% ทั้งนี้ Allied Market Research คาดการณ์ว่า ในปี 2570 การบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ของคลินิกเฉพาะทางด้านการรักษาผู้มีบุตรยากในไทยจะมีมูลค่ากว่า 58.0 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.9 พันล้านบาท โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ย (ปี 2563-2570) 6.2% ต่อปี

สิทธิบัตรทองก็สามารถใช้บริการ IVF ได้

เมื่อเดือน พ.ย.2564 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีมติออกประกาศขอบเขตบริการใหม่ หรือสิทธิประโยชน์ใหม่ โดยเพิ่มการให้บริการรักษาภาวะผู้มีบุตรยากสามารถเบิกจ่ายได้ แต่ยังยกเว้นกรณีตั้งครรภ์แทน (อุ้มบุญ) โดยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาการทำ IVF รวมทั้งศึกษาเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ โดยให้ดำเนินการในระดับเขตสุขภาพ โดยใช้การส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อม โดยสามารถเบิกค่าใช้จ่ายบริการให้คำปรึกษา การรักษาเบื้องต้น การตรวจโรคที่เป็นสาเหตุของการมีบุตรยาก และรักษา รวมถึงการฉีดน้ำเชื้อจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

Krungthai COMPASS มองว่า ตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ในไทยยังมีโอกาสเติบโตสอดคล้องกับเทรนด์ในต่างประเทศ ซึ่งหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายประเมินว่าธุรกิจจะกลับมาเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว เนื่องจากไทยมีชื่อเสียงและคุณภาพการรักษาเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลในไทยถูกกว่าประเทศคู่แข่งและประเทศชั้นนำอย่างสหรัฐอเมริกา โดยมีปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมจากการขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยาก หรือที่เรียกว่า Fertility Tourism โดยเฉพาะชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก โดยได้รับอานิสงส์จากการที่ทางการจีนได้ประกาศนโยบายส่งเสริมการมีบุตรคนที่ 3 ของกลุ่มคู่สมรสชาวจีนเมื่อ พ.ค. 2564 ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดที่จะแก้กฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญบางมาตราหลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้ภาวะมีบุตรยากเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษา ซึ่งจะส่งผลให้คู่สามีภรรยาชาวต่างชาติสามารถเข้ามาทำการอุ้มบุญในไทยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาด IVF ในอนาคต

การเติบโตของตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) จะเข้ามามีบทบาทในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจบริการทางการแพทย์ของไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเฉพาะทางด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก นอกจากนี้ ศักยภาพการเติบโตของธุรกิจยังส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจอื่น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม เนื่องจากการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ต้องใช้เวลาในการติดตามผลการรักษา ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากจำเป็นต้องพำนักในไทยในช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วย

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: Krungthai COMPASS กรุงไทย ธนาคารกรุงไทย ธุรกิจ IVF

Continue Reading

Previous: สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 25 ต.ค. 65
Next: กรมธนารักษ์เปิดจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 ก.ย. 68

20/09/2025
ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้าน ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้านบาท 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

ส.กทอ. ยื่นขอทุนอนุรักษ์ฯ ทะลุ 1,070 โครงการ วงเงินกว่า 1.34 หมื่นล้านบาท

20/09/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 20 กันยายน 2568

20/09/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2568

20/09/2025
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง 2 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังซึมต่อเนื่อง

19/09/2025
สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สทนช.ยันระบายน้ำเหนือต่อเนื่องป้องกันน้ำท่วม

19/09/2025
ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน 1 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

ttb analytics คาดต้นทุนขนส่งต่อจีดีพีไทยปี 2568 ลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

19/09/2025
IMG_20250907131310000000 โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน” 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน”

19/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

19/09/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 ก.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 ก.ย. 68

19/09/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 19 กันยายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 19 กันยายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 19 กันยายน 2568

19/09/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2568

19/09/2025

China News

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

แบงก์ใหญ่แห่เพิ่มคาดการณ์ GDP จีน

14/05/2025
LINEแชร์เลย! สถาบันการเงินรายใหญ่ได้พากันปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของจีนในปีนี้ หลังจากจีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 พ.ค.)... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

19/09/2025
กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่ กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

18/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

18/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

17/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

16/09/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.80-32.05 บาท/ดอลลาร์

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

กสิกรไทยลุยจีนสแกนจ่ายได้ทุกที่

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.60-31.85 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

Energy Force

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว "ไซยะบุรี พาวเวอร์" รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

“ไซยะบุรี พาวเวอร์” รับเหรียญชัยแรงงานจาก สปป.ลาว

11/09/2025
LINEแชร์เลย! บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) บริษัทร่วมในเครือของ บริษัท ซีเค... อ่านต่อ

Politics

IMG_20250907131310000000 โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน” 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

โรดแมป 4 เดือน “รัฐบาลอนุทิน”

19/09/2025
548313824_814042087644454_7977143485878694664_n กองทัพภาคที่ 1 ประกาศ ยกระดับจัดการกัมพูชาละเมิดเขตแดน 1 min read
  • HOT NEWS
  • POLITICS

กองทัพภาคที่ 1 ประกาศ ยกระดับจัดการกัมพูชาละเมิดเขตแดน

18/09/2025
550196835_1414206843816415_6147802706000758168_n “สระแก้ว” ระดมตำรวจชุด คฝ. 3 จังหวัด คุมชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“สระแก้ว” ระดมตำรวจชุด คฝ. 3 จังหวัด คุมชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว

18/09/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเลเซีย รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย. นี้ SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย.นี้ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

SME D Bank เสริมคึกคัก ในงาน ‘SME D Market’ 25-26 ก.ย.นี้

20/09/2025
เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

เปิดรับสมัครแล้ว! PIM International Hackathon #5 ชิงทุนการศึกษากว่า 2 แสนบาท

19/09/2025
บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

บัญชีกลางโอนซ้ำ 3 รอบ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุรายได้น้อย ไม่สำเร็จโทร Call Center

19/09/2025
ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ  ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ  1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ธอส. ครบ 6 รอบ 72 ปี ส่งมอบบ้านให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ 

18/09/2025

Recommend

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังสงบ

16/08/2025
"จุลพันธ์" มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  “จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง  1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“จุลพันธ์” มั่นใจงบปี 69 เพียงพอรับความเสี่ยง 

13/08/2025
ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ประชาชนทยอยกลับบ้าน พร้อมเร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง

11/08/2025
"ทรัมป์" ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา “ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“ทรัมป์” ยินดี ไทยหยุดยิงกัมพูชา

29/07/2025

Photo Stories

กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025  กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025  1 min read
  • PHOTO STORIES

กรรมการผู้จัดการ ธอส. คว้ารางวัล DAILYNEWS TOP CEO 2025 

20/09/2025
กสิกรไทย - DKSH - วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร กสิกรไทย – DKSH – วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย – DKSH – วีซ่า ผนึกกำลังยกระดับโซลูชันรับชำระเงินครบวงจร

19/09/2025
บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์ บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์ 1 min read
  • PHOTO STORIES

บางปะอิน โคเจนฯ รับประกาศนียบัตรฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์

19/09/2025
EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK ต้อนรับองค์กรการพัฒนาการส่งออกแคนาดา

18/09/2025
SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University” SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University” 1 min read
  • PHOTO STORIES

SCB Academy เปิดตัว “AFAST Smart University”

18/09/2025
สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย 1 min read
  • PHOTO STORIES

สรรพากรเข้าร่วมการประชุม SGATAR ครั้งที่ 54 ณ เมืองบริสเบน เครือรัฐออสเตรเลีย

18/09/2025
การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568 การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

การออกรางวัลสลากออมทรัพย์ ธอส. งวดวันที่ 16 ก.ย. 2568

17/09/2025
กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68 กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรรมการผู้จัดการ ธอส. เป็นประธานออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 ก.ย.68

16/09/2025
SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช 1 min read
  • PHOTO STORIES

SAM เปิดประมูลทรัพย์มือสองกว่า 170 ลบ. ไฮไลท์กลางโคราช

15/09/2025
คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award” คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award” 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. ประกาศผลประกวด “Insurefluencer 2025” และ “School Media Creator Award”

15/09/2025
ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยยูเนี่ยน–กสิกรไทย เปิดตัว “Blue Finance Linked FX Forward” ครั้งแรกในไทย

15/09/2025
กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมสรรพากรเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2568

14/09/2025
ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไอแบงก์ จับมือ EXIM BANK คว้ารางวัลเลิศรัฐ 2568

13/09/2025
คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม” คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม” 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. คว้ารางวัล “องค์กรผู้สนับสนุนบอร์ดเกม”

12/09/2025
กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมบัญชีกลาง จัดพิธีมอบรางวัลคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ดีเด่น

12/09/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM