TWPC ทุ่ม 2 พันล.รุกขยายลงทุนอาเซียน
TWPC คาดปี 62 รายได้เติบโตทะลุเป้าหมาย ทุ่มงบลงทุน 2 พันล้านบาท รุกขยายโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังกัมพูชา โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล และโรงงานผลิตวุ้นเส้นที่เวียดนาม
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมาอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น โดยล่าสุดกำไรขั้นต้นไตรมาส 1/62 อยู่ที่ 20.4% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงสุดใน 7 ไตรมาส ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 17.2% ในไตรมาส 4/61 และ 17.7% จากไตรมาส1/61 เนื่องจากราคาหัวมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักทยอยปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคาดว่าในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2562 บริษัทฯ จะยังคงรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่องตามเป้า
รวมทั้งบริษัทฯ มั่นใจว่าปีนี้รายได้จะเติบโตระดับ 6-8% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากปริมาณหัวมันฯ ในตลาดเพิ่มขึ้นกลับสู่สภาวะปกติ ความต้องการแป้งมันสำปะหลัง มีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีก่อน โดยเฉพาะในประเทศจีนและไต้หวัน และกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อโรงงานแห่งใหม่ที่แม่สอด ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตมากขึ้นประมาณ 15% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังอยู่ที่ประมาณ 399,000 ตันต่อปีเป็น 465,000 ตันต่อปี
“แนวโน้มราคามันสำปะหลังคาดว่าจะอยู่ในทิศทางขาลงตลอดทั้งปี โดยคาดว่าผลผลิตมันสำปะหลังในประเทศจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นกลับมาอยู่ในสภาวะปกติในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวปี 2562/2563 นี้ ขณะที่ความต้องการแป้งมันสำปะหลัง ในตลาดโลกโดยเฉพาะในประเทศจีน และไต้หวัน ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทฯ ยังสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายและสามารถผลักดันไปสู่ผู้นำในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างแน่นอน”
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 ว่าบริษัทฯ ตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งรวมเงินลงทุนในโรงงานใหม่ที่แม่สอด ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยจะใช้ก่อสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ที่กัมพูชา เฟส 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 ขยายกำลังการผลิตกลุ่มสินค้า HVA ภายในประเทศ รวมทั้งจะใช้งบลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เพิ่มอีกจำนวน 2 โรง
ส่วนผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/62 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 1,869 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1,823 บาท โดยสาเหตุหลักที่กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบหัวมันฯ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบหัวมันสำปะหลัง มีราคาปรับตัวลดลง โดยปัจจุบันอยู่ที่ราคา 2.20-2.40 บาทต่อกิโลกรัม อีกทั้งบริษัทฯ สามารถเดินเครื่องผลิตเต็มที่
นอกจากนี้การเข้าซื้อโรงงานแห่งใหม่ที่แม่สอดจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้กับบริษัทฯ ประมาณ 15% ซึ่งการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายการขยาย การลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิต และเป็นการกระจายแหล่งการจัดหาแหล่งวัตถุดิบ พร้อมทั้งสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้สามารถเติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งสถานการณ์โดยรวมเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้.