คปภ.ไขปมประกันข้าว-ข้าวโพดช่วยเกษตรกร
คปภ. ลงพื้นที่ร่วมวง “ขอดเกล็ด” ทำประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผ่านโครงการ “Training for the Trainers” หวังคลายข้อสงสัยให้เกษตรกรเพชรบูรณ์ เผยหวังเกษตรกรไทยใช้ระบบประกันภัยป้องกันความเสี่ยงทุกมิติ
นายชนะพล มหาวงษ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) นำคณะเจ้าหน้าที่ คปภ. ลงพื้นที่ให้ความรู้ด้านประกันภัย แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนระบุว่า สำนักงาน คปภ. ได้จัดโครงการอบรมความรู้ประกันภัย “Training for the Trainers” สำหรับการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประจำปี 2562 เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้แก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดต่อให้กับเกษตรกร รวมทั้งผลักดันระบบการประกันภัยให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ
กำหนดพื้นที่เป้าหมายครอบคลุมในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 10 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครสวรรค์ ชัยนาท เพชรบูรณ์ น่าน เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี นครพนม และนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้จัดการอบรมฯ ไปแล้ว 3 ครั้ง คือ นครราชสีมา นครสวรรค์ และชัยนาท สำหรับการจัดอบรมฯ ที่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 22-23 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่าในปี 2561 จ.เพชรบูรณ์ มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปี 998,787 ไร่ มีการทำประกันภัยข้าวนาปี 613,862 ไร่ คิดเป็น 61.5 % (อยู่อันดับที่ 19) ของจังหวัดที่มีการทำประกันภัยข้าวนาปีสูงที่สุดของประเทศ โดยมีเกษตรทำประกันภัยข้าวนาปี 39,736 ราย ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงเลือก จ.เพชรบูรณ์ ในการลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้ด้านประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยคาดหวังว่าในปีนี้ จ.เพชรบูรณ์จะมีการทำประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ
สำหรับรูปแบบการอบรมความรู้ด้านประกันภัยในการลงพื้นที่ ได้มีโอกาสลงพื้นที่พบปะเกษตรกร 250 ราย ใน ต.ชอนไพร อ.เมือง เพื่อรับทราบถึงสภาพปัญหา อุปสรรค ข้อคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะของการทำประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยเกษตรกรได้มีการสะท้อนสภาพปัญหาการทำประกันภัยข้าวนาปีในปีที่ผ่านมา ชนิดที่เรียกว่า “ขอดเกล็ด” สภาพปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยมีคณะวิทยากรจากสำนักงาน คปภ. เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. และผู้แทนจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมชี้แจง จนเป็นที่เข้าใจของเกษตรกร รวมทั้งได้มีการนำข้อมูลจากการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรในครั้งนี้ ไปปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการรับประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้ดียิ่งขึ้นในปีต่อไป
นายชนะพล กล่าวตอนหนึ่งระหว่างปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จุดเปลี่ยนชีวิตเกษตรกรไทย” ว่า ระบบประกันภัยเป็นเรื่องที่สำคัญ และเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่ลมหายใจเข้าปอดครั้งแรก จนกระทั่งลมหายใจเข้าปอดครั้งสุดท้าย แม้กระทั่งความเสียหายจากทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นรถหาย ไฟไหม้บ้าน ไหม้ตึก ล้วนแล้วแต่มีระบบประกันภัยเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ทั้งนี้ หากรู้จักนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ก็จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวเองและครอบครัว
ในส่วนของเกษตรกรเอง ก็อยากให้มีการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงภัยอย่างเป็นระบบ ด้วยการทำประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งปีนี้มีการกำหนดอัตราค่าเบี้ยประกันภัย ข้าวนาปี สำหรับความคุ้มครองพื้นฐานอยู่ที่ 85 บาทต่อไร่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยรัฐบาลอุดหนุน 51 บาทต่อไร่ และธ.ก.ส. อุดหนุน 34 บาทต่อไร่ ดังนั้นเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด ในส่วนของการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอัตราค่าเบี้ยประกันภัย 59 บาทต่อไร่ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยรัฐบาลอุดหนุน 35 บาทต่อไร่ และ ธ.ก.ส. อุดหนุน 24 บาทต่อไร่ ดังนั้น เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย เช่นกัน ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี และประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สามารถทำประกันภัยได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.62 ยกเว้น! ภาคใต้ที่ทำได้จนถึง 15 ธ.ค.62.