ธอส.ลุยแรงหลัง กม.ใหม่เอื้อธุรกิจลิ่ว
ธอส.ฟันกำไรไตรมาสแรกปีนี้ กว่า 2,800 ล้านบาท เผยปล่อยสินเชื่อใหม่ 4.4 หมื่นล้านบาท ดันสินเชื่อคงค้างทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท แถมปล่อยเพิ่มช่วง เม.ย. อีก 5.3 หมื่นล้านบาท ลั่นผลงานดีเพราะอิงนโยบายรัฐ จ่อรับอานิสงฆ์ พ.ร.บ.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พร้อมลุยตามแผนงานเดิมทั้ง ออกสลาก ธอส., สินเชื่อผู้สูงวัย, แก้ปมเอ็นพีแอลให้ลูกค้า
ส่วนโครงการบ้านล้านหลังเฟสแรก ปล่อยแล้วกว่า 6,300 ราย วงเงินกู้ 4,300 ล้านบาท ประกาศเร่งปิดจ๊อบทั้ง 1.27 แสนราย ภายใน ก.ค.62 ก่อนเปิดเฟสใหม่ ก.ย.นี้
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงการดำเนินงานในไตรมาสแรก (31 มี.ค.62) ว่า มีสินเชื่อใหม่ 44,041 ล้านบาท จาก 35,971 บัญชี เพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางมีที่อยู่อาศัยของตนเอง วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 21,319 ราย โดยมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,128,493 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีสินทรัพย์รวม 1,167,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.95% ด้านเงินฝากรวม 945,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น2.58% ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มี49,295 ล้านบาท คิดเป็น 4.37% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.03% โดยมีอัตราส่วนการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ 166.81% เพิ่มขึ้น 9.60% มีรายได้ดอกเบี้ย 12,971 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 5,432 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 2,866 ล้านบาท
ล่าสุด ณ วันที่ 30 เม.ย.62 ธนาคารฯปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว 53,348 ล้านบาท คาด ณ สิ้นไตรมาส 2 การปล่อยสินเชื่อใหม่จะเพิ่มขึ้นใกล้เคียงเป้าหมาย 6 เดือนที่ 100,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 203,000 ล้านบาทโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ มาตรการลดหย่อนภาษีฯ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ คาดว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยช่วงครึ่งปีหลังจะเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก ตามภาวะการแข่งขันของตลาดที่อยู่อาศัยเพราะผู้ประกอบการมักจัดทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายและปิดยอดให้ได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ ช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยังประสบความสำเร็จในการนำระบบปฏิบัติงานหลัก GHB System ขึ้นใช้งานทดแทนระบบเดิมที่ใช้งานมานานกว่า10 ปี ตามกำหนดเมื่อวันที่11 มี.ค.62 และสามารถให้บริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ GHB System ถือเป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของธนาคารฯ รองรับการดำเนินธุรกิจอย่างน้อย10 ปี พร้อมรับการแข่งขันในธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการ โดยเฉพาะการยกระดับบริการดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี
ทั้งนี้ จะเริ่มให้บริการ Phase 2 ของ Mobile Application : GHB ALL ภายในเดือนมิ.ย.62 โดยฟังก์ชั่นการให้บริการเพิ่มเติม ประกอบด้วย การยื่นกู้สำหรับลูกค้าที่มีสวัสดิการกับธนาคารฯ บริการแจ้งเตือนให้ชำระหนี้เชื่อมต่อกับระบบค้นหา และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ซื้อทรัพย์และการเชื่อมต่อกับระบบสะสมแต้ม Online ของลูกค้าเพื่อ ลุ้นรับของรางวัลต่างๆ ในโครงการ GHB Reward ซึ่งภายหลังที่เปิดตัวแอปฯนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.61 ล่าสุด มีลูกค้าดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 100,000 ราย
สำหรับแนวทางดำเนินงานช่วงที่เหลือของปี 62 ภายหลังที่ พ.ร.บ.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่4) พ.ศ.2562 ได้รับการประกาศในราชกิจานุเบกษา เมื่อ 17 เม.ย.62 ทำให้ธนาคารฯสามารถขยายขอบเขตการทำธุรกิจได้มากขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำกฎกระทรวงเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ อาทิ การจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ธอส. ซึ่งได้เตรียมการออกสลากจำนวน 3 ชุด โดยชุดแรกที่จะเริ่มจำหน่ายได้แก่สลาก Premium ชุดวิมานเมฆ หน่วยละ1 ล้านบาท จำนวน 27,000 ล้านบาท ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือนจำนวน 27 รางวัล/เดือน รางวัลละ 200,000 บาท อายุสลาก 3 ปี ทำให้ผู้ถือสลากมีโอกาสลุ้นรางวัลถึง 972 รางวัล ทำให้มีโอกาสในการถูกรางวัลสูงถึง 0.1% และเมื่อฝากครบ3 ปี จะให้ผลตอบแทนหน้าสลากสูงถึง1.4% ต่อปีเทียบเท่ากับเงินฝากประจำ และหากถูกรางวัลเพียง 1 ครั้ง ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 8.07% ต่อปี และยังสามารถถือสลากต่อเพื่อมอบเป็นมรดกได้ คาดว่าจะสามารถออกรางวัลครั้งแรกได้ในเดือน ก.ย.นี้
ส่วนสลากอีก 2 ชุด คือ ราคาหน่วยละ10 ล้านบาท จำหน่ายจำนวน 30,000 ล้านบาท และราคาหน่วยละ 500 บาท จำหน่ายอีก 50,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด งคาดว่าจะมีความชัดเจนหลังจากจำหน่ายสลากออมทรัพย์ชุดวิมานเมฆแล้ว
ขณะเดียวกันกฎหมายดังกล่าว ยังทำให้ธนาคารฯสามารถจัดทำสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage ภายใต้กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยของตนเองและปลอดภาระหนี้ สามารถนำมาจำนองเพื่อรับเงินเป็นรายเดือนสำหรับการดำรงชีพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยกำหนดพื้นที่นำร่องที่อยู่อาศัย (หลักประกัน) ต้องตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งกำหนดให้กู้สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน80 ปี และต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ กู้ร่วมได้ เฉพาะกับคู่สมรสตามกฎหมาย หรือพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ที่มีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันเดียวกันวงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 50%ของราคาประเมิน และสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยไม่พิจารณารายได้ของผู้กู้อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี ตลอดอายุสัญญากู้
โดยได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม 4 ฟรี คือ 1.ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) 2.ค่าประเมินราคาหลักประกัน 3.ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาทต่อราย) และ4.ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง) ระยะเวลาขอรับเงินได้นานสูงสุด 25 ปี หรือจนถึงผู้กู้อายุ 85 ปี ทั้งนี้ ธนาคารฯจะจ่ายเงินให้ผู้กู้เป็นรายเดือน อาทิ วงเงินกู้ 2ล้านบาท หากผู้กู้ อายุ 65 ปี ระยะเวลาการกู้ 20 ปี จะได้รับเงินจากธนาคารฯเดือนละ 8,300 บาท
หากครบระยะเวลาการกู้ตามสัญญาแล้ว สามารถขอชำระหนี้ปิดบัญชี โดยธนาคารฯจะคำนวณจำนวนเงินเท่ากับวงเงินกู้ที่ธนาคารฯจ่ายให้แก่ผู้กู้ทั้งหมด รวมกับดอกเบี้ยค้างรับ หรือหากไม่สามารถชำระหนี้ปิดบัญชี ผู้กู้ยังมีสิทธิอยู่อาศัยต่อในหลักประกันเดิมได้ตลอดชีวิต หรือสามารถแจ้งความประสงค์ขอกู้เพิ่มได้ โดยขอรับวงเงินที่กู้เพิ่มได้นานสูงสุด 14 ปี และกรณีผู้กู้เสียชีวิตให้ถือว่าสัญญาสิ้นสุดลง ธนาคารฯจะให้สิทธิแก่ผู้รับผลประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในสัญญากู้ สามารถชำระหนี้ปิดบัญชีเพื่อไถ่ถอนจำนอง เพื่อรับกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยดังกล่าว แต่หากผู้รับผลประโยชน์ไม่ประสงค์ชำระหนี้ปิดบัญชี ธนาคารฯจะนำหลักประกันขายทอดตลาดต่อไป โดยผู้รับผลประโยชน์ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนต่าง หรือค่าใช้จ่ายในการดำเนินการส่วนต่างๆ แม้ราคาขายทอดตลาดจะต่ำกว่ายอดชำระหนี้ ส่วนกรณีราคาขายทอดตลาดสูงกว่ายอดชำระหนี้ ธนาคารฯจะคืนเงินส่วนต่างให้ผู้รับผลประโยชน์ หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการส่วนต่างๆ แล้ว
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินโครงการบ้านล้านหลัง ซึ่งธนาคารฯเปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.62 ล่าสุด ณวันที่ 15 พ.ค.62 พบว่า มีลูกค้าประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาติดต่อยื่นคำขอกู้รวมแล้วกว่า 7,300 ราย วงเงินกู้ 5,200 ล้านบาท และมีผู้ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 6,300 ราย วงเงินกู้ 4,300 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารฯยังคงเร่งติดตามให้ผู้ที่มาจองสิทธิ์สินเชื่อ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.61 ทั้ง 127,000 ราย เข้ามาติดต่อขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ หรือยื่นกู้กับธนาคารให้ครบทุกราย ภายใน ก.ค.62 เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์การเข้าถึงสินเชื่อของโครงการบ้านล้านหลัง ที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยเพียง 3% ต่อปี คงที่นานสูงสุด 5 ปี สำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท และฟรีค่าธรรมเนียมถึง 4 ประเภท ก่อนที่จะเปิดจองสิทธิสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 ภายใน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ธนาคารฯอยู่ระหว่างรวบรวมและแนะนำผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีแผนก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน1 ล้านบาท มาเข้าร่วมโครงการให้ได้ไม่ต่ำกว่า20,000 หน่วยต่อปีและเตรียมจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยมุ่งเน้นส่งเสริมกลุ่มผู้ที่เลี้ยงดูบุพการีผู้มีรายได้น้อยและคนวัยทำงานหรือกำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัวได้มีบ้านเป็นของตนเองและอาจขยายระยะการผ่อนชำระให้นานสูงสุดถึง50 ปีเพื่อลดภาระในการผ่อนรายเดือนให้กับผู้กู้ต่อไป
นอกจากนี้ ธนาคารฯยังมีแผนจัดทำโครงการ Virtual NPL เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ไม่สามารถผ่อนชำระเงินกู้ได้ตามปกติ และกลายเป็น NPL โดยโครงการดังกล่าว ธนาคารฯจะเปรียบเสมือนศูนย์กลางในการรวบรวมที่อยู่อาศัยที่เป็น NPL เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป สามารถเข้ามาดูข้อมูลและเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่กำหนด โดยได้รับความยินยอมจากผู้กู้เดิมแล้ว และเมื่อสามารถจำหน่าย NPL ได้แล้ว เงินที่ธนาคารฯได้รับจากผู้ซื้อ จะถูกนำไปหักหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดให้แก่ผู้กู้เดิม จึงทำให้ผู้กู้เดิมสามารถปลดภาระหนี้ รวมถึงเป็นหนึ่งในมาตรการใหม่ จากปัจจุบันที่มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่เป็น NPL อยู่แล้ว 13 มาตรการ ซึ่งจะช่วยลด NPL ของธนาคารฯ ลงให้อยู่ในระดับไม่เกิน4% ของสินเชื่อคงค้างในสิ้นปี 62
โดยภายใน ก.ย.62 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ยังมีกำหนดเปิดตัวโครงการ “ระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง” ซึ่งถือเป็นโครงการที่ ครม.มีมติอนุมัติงบฯดำเนินโครงการ ในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง โดยใช้เงินกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจจำนวน 31.1 ล้านบาท เพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง ที่แสดงอุปสงค์และอุปทานของตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสอง สร้างตลาดเสมือนจริง (Digital Virtual Market) สำหรับอสังหาริมทรัพย์มือสอง เพื่อสร้างช่องทางกลางในการซื้อขายและสร้างให้มีสภาพคล่องในตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสอง.