เมืองไทยฯผุดประกันอุ้มนักลงทุนทั้งชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต คลอด “ยูนิต ลิงค์” ทั้ง mDesign และ mOne ตอบโจทย์ทั้งชีวิตให้นักลงทุน จับมือตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงานสัมมนา “2019 Wealth Designed…” ถ่ายทอดความรู้การลงทุน พร้อมแนะนำการออกแบบพอร์ตตอบโจทย์ทั้งชีวิต
น.ส.อุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต (MTL) กล่าวว่า บริษัทฯได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน 2 ตัว คือ mDesign และ nOne ซึ่งเน้นการลงทุนระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือทางการเงินเพื่อเก็บออมระยะยาว และยังต้องการความคุ้มครอง พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมคุณภาพ ที่บริษัทฯได้เลือกสรรมาเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคตแก่นักลงทุน ด้วยแบบประกันที่มีความยืดหยุ่นสูง ปรับเปลี่ยนได้ตามจังหวะชีวิต ขณะเดียวกันก็ยังสามารถถอนเงินลงทุนบางส่วนจากกรมธรรม์หรือเลือกหยุดพักชำระเบี้ยได้ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลายและตรงจุดไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเงิน วางแผนเกษียณ และการวางแผนส่งต่อหลักประกันให้ลูกหลาน
“ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและภาพรวมการลงทุนที่ยังไม่ชัดเจน ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น การวางแผนทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในชีวิต ทั้งการออม คุ้มครอง และลงทุน จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ด้วยความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้าผ่านนโยบาย “MTL Everyday Life Partner” บริษัทฯจึงได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงานสัมมนาหัวข้อ 2019 Wealth Designed ออกแบบพอร์ตตอบโจทย์ทั้งชีวิต” เพื่อให้ความรู้และอัพเดทภาวะเศรษฐกิจแนวโน้มการลงทุน พร้อมสรุปคำแนะนำออกแบบพอร์ตตอบโจทย์ทั้งชีวิตด้วยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนเกี่ยวกับยูนิตลิงค์ทั้ง 2 ตัว” น.ส.อุมาพันธุ์
ด้าน ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าวตอนหนึ่งระหว่างร่วมงานเสวนาครั้งนี้ ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาใหญ่คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่มีแนวโน้มกลับมาสร้างปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจของโลก หลังจาก ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเพิ่มการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หลังจากพบว่าจีนยังคงดำเนินนโยบายการค้าที่เอาเปรียบสหรัฐฯ ซึ่งนั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออกของไทย ขณะที่อัตราดอกเบี้ย มีแนวโน้มว่าธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.25% – 2.50% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับไม่น่าเป็นห่วงที่ 2% พร้อมกับลด QT (การดูดเงินออกจากระบบการเงินผ่านการออกพันธบัตร) จากเดิมที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการลงทุนของนักลงทุน ซึ่งส่วนตัวมองว่า การเลือกลงทุนควรแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัง คือ ระยะยาว ระยะปานกลาง และระยะสั้น นับเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นของนักลงทุน ทั้งนี้ การลงทุนผ่าน “ยูนิต ลิงค์” ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มีความเหมาะสม และทาง บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตเอง ก็มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ของนักลงทุน โดยเฉพาะการเลือกลงทุนผ่านกองทุนระหว่างประเทศ ที่ให้ผลตอบแทนสูง ขณะที่ความเสี่ยงอยู่ในวิสัยที่พอรับได้
ขณะที่ นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย กล่าวว่า ทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้น ราคาทองคำ รวมถึงราคาน้ำมัน น่าจะยังอยู่ในภาวการณ์ทรงตัว ขณะที่กลุ่มธุรกิจ/อุตสาหกรรมที่ได้รับผลประโยชน์ตอนนี้ คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจค้าปลีก รับเหมาก่อสร้าง ขนส่งทางราง และอสังหาริมทรัพย์ในซีกของนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การลงทุนที่หลากหลาย ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงได้อย่างดี และยังเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน ซึ่งการลงทุนในธุรกิจประกันภัย (กรมธรรม์ “ยูนิต ลิงค์”) ก็ถือเป็นการลงทุนในรูปแบบหนึ่ง.