Skip to content
Sun. Nov 23rd, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • NATIONAL

มุมมองอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ หลัง Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย 75 bps และนัยต่อตลาดการเงินไทย

21/06/2022 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,067

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 75 bps สู่ระดับ 1.5-1.75% ในการประชุมวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา

ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 เนื่องจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI inflation) ในเดือนพ.ค. ยังเร่งตัวต่อเนื่องที่ 8.6% และยังไม่มีสัญญาณว่าจะชะลอลง ประกอบกับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะยาวของภาคครัวเรือนที่จัดทำโดย University of Michigan ก็ยังปรับสูงขึ้นเป็น 3.3% ในเดือนมิ.ย. จากเดิมที่ 3% ในเดือนก.พ. ถึง พ.ค. จึงทำให้ Fed กังวลว่าจะไม่สามารถควบคุมคาดการณ์เงินเฟ้อ (inflation expectations) ได้ และจะทำให้ปัญหาลุกลามมากขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานยังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยอัตราการว่างงานปรับลดลงมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิด COVID-19 แล้ว นอกจากนี้ คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย (Median dot plot) ของ Fed ยังบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.75% ในปีนี้ โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.4% ในสิ้นปีนี้ และ 3.8% ในสิ้นปีหน้า ก่อนปรับลดลงสู่ 3.4% ในปี 2567 อย่างไรก็ดี ในช่วงแถลงข่าวหลังการประชุม ประธาน Fed ได้สื่อสารว่า การขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ในรอบนี้ถือว่าเป็นการขึ้นในขนาดที่มากกว่าปกติ จึงทำให้ตลาดปรับลดมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปลงมาต่ำกว่า 100 bps สำหรับมุมมองของ Fed ต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) นั้น จากตัวเลขประมาณการสะท้อนได้ว่า Fed ยังไม่คิดว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) ในปีนี้และปีหน้า แต่มองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มากในครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเท่านั้น (soft landing) ทั้งนี้ Fed ยอมรับว่าโอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวแบบ soft landing นั้นมีน้อยลงและทำได้ยากขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยที่ Fed ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สงครามรัสเซียยูเครน การปิดเมืองของจีน รวมถึงราคาน้ำมันและราคาอาหารที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของ Fed

ภายหลังการประชุม ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงหลังจากที่แข็งค่าไปมากในช่วงก่อนประชุม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลดลง และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงจากความกังวลต่อ Recession ส่วนเงินบาทปรับอ่อนค่า ภายหลังการประชุมที่ Fed ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ตลาดคาดไว้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง Nasdaq และ S&P500 ปรับตัวขึ้น 2.5% และ 1.5% ณ สิ้นวันทำการ อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา ตลาดมีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย (recession) มากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นทั้ง Nasdaq, S&P500 และ Dow Jones ปรับลดลงราว 4.5% 2% และ 2% จากวันก่อนการประชุม (ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2565) ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับอ่อนค่าลง 1% จากวันก่อนการประชุม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี ปรับลดลงราว 25 bps ส่วนค่าเงินบาทปรับอ่อนค่าลงราว 0.8% มาอยู่ที่ 35.3 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ปรับลดลงเล็กน้อยจาก 3.0% สู่ 2.93%

EIC คาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 75 bps ในเดือนก.ค. เพื่อชะลอความร้อนแรงของการฟื้นตัวของอุปสงค์ และทำให้อัตราเงินเฟ้อและเงินเฟ้อคาดการณ์ปรับลดลงมาใกล้เคียงเป้าหมายเงินเฟ้อมากขึ้น โดยปัจจัยที่จะทำให้ Fed ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่สูง คือ

แรงกดดันเงินเฟ้อที่จะยังอยู่ในระดับสูง โดย EIC คาดว่าในเดือนมิ.ย. อัตราเงินเฟ้อจะยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา จึงทำให้ Fed ยังจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่สูง โดยเมื่อมองย้อนกลับไปในวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ย (hiking cycle) ในปี 2547 และ 2558 พบว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ราว 3% และ 0.5% ตามลำดับ ซึ่งในขณะนั้น Fed ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 25 bps อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่สูงถึง 8.6% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ 2% มากทำให้มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าอดีตมาก นอกจากนี้ คาดการณ์เงินเฟ้อในอีก 5 ปีข้างหน้าของผู้บริโภคที่สูงถึง 3.3% และคาดการณ์เงินเฟ้อในอีก 1 ปีข้างหน้าที่ 5.4% ก็สะท้อนถึงมุมมองของผู้บริโภคที่ยังมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับลดลงสู่กรอบเป้าหมายได้ ซึ่งแตกต่างจาก hiking cycle ในอดีตที่คาดการณ์เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำกว่า 3%

ตลาดแรงงานที่ตึงตัวขึ้นมาก โดยอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค. 2565 อยู่ที่ 3.6% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับช่วงก่อน COVID-19 แล้ว (ธ.ค. 2563) และยังต่ำกว่าระดับอัตราการว่างงานที่ไม่ทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น (Non-Accelerating Inflation Rate of Unemployment หรือ NAIRU) ที่ 4.5% จึงสะท้อนว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ ตึงตัวมาก อีกทั้ง อัตราการว่างงานในปัจจุบันก็อยู่ในระดับต่ำกว่าใน hiking cycle รอบก่อนที่ในขณะนั้นอยู่ที่ราว 5-5.6% นอกจากนี้ อัตราการเปิดรับสมัครงาน (job openings) ก็อยู่ในระดับสูง กดดันให้อัตราค่าจ้างปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ยิ่งกดดันให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นเร็วเมื่อเทียบกับในอดีตที่ไม่มีปัจจัยด้านค่าแรงร่วมกดดัน ดังนั้น นโยบายการเงินของสหรัฐฯ ในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายมากเมื่อเทียบกับตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวได้ดีแล้ว

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อยู่ในภาวะแข็งแกร่ง การบริโภคและภาคการผลิตในปัจจุบันขยายตัวสูงกว่าใน hiking cycle รอบก่อนหน้า โดยการบริโภคภาคเอกชน (คิดเป็น 68% of GDP สหรัฐฯ) ขยายตัวในระดับมากกว่า 10% ในช่วงที่ผ่านมา แม้ชะลอลงในเดือนล่าสุด (พ.ค.) จากภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้น เช่นเดียวกันกับยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่สะท้อนอุปสงค์ในอนาคตก็ขยายตัวในระดับสูงที่ 14% ในเดือนเม.ย. จึงสะท้อนว่าเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากกว่าช่วง hiking cycle ในอดีต และจะสามารถรองรับการดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวเร็วได้ดีกว่า

ด้วยเหตุนี้ EIC จึงมองว่า Fed จะยังจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปริมาณที่มากในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ โดยคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยรอบละ 75 และ 50 bps ในเดือนก.ค. และ ก.ย. แต่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับชะลอลง Fed จะขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียงรอบละ 25 bps ในเดือนพ.ย. และ ธ.ค. ส่งผลให้ Fed funds rate จะอยู่ที่ระดับ 3.25-3.5% ณ สิ้นปี 2565 ใกล้เคียงกับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปีของ Fed

การดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดขึ้น จะส่งผลให้ภาวะการเงินโลกตึงตัวขึ้นผ่าน 3 ช่องทางด้วยกัน คือ ต้นทุนทางการเงินปรับสูงขึ้น เงินทุนเคลื่อนย้ายมีแนวโน้มไหลออกจากเศรษฐกิจกำลังพัฒนา และผลตอบแทนของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับลดลง กล่าวคือ

ต้นทุนทางการเงินปรับสูงขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับสูงขึ้น โดยต้นทุนการกู้ยืมของทั้งภาคธุรกิจ ผู้บริโภค รวมถึงอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน (mortgage rates) ในตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้
อุปสงค์และกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง

เงินทุนเคลื่อนย้ายจะผันผวนมากขึ้นและมีแนวโน้มไหลออกจากเศรษฐกิจกำลังพัฒนามากขึ้นเมื่อเทียบกับในปี 2564 โดยมีแนวโน้มไหลเข้าสหรัฐฯ หรือเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ที่ดอกเบี้ยที่แท้จริง (ปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อ) ปรับสูงขึ้นและมีความเสี่ยงต่ำกว่าเศรษฐกิจกำลังพัฒนา จึงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินเศรษฐกิจกำลังพัฒนาส่วนใหญ่

ผลตอบแทนของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับลดลง จากสภาพคล่องในระบบการเงินโลกที่จะลดลง ซึ่งจะกระทบต่อความมั่งคั่ง (wealth effect) ของทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน

ทั้งนี้การดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดของเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีแนวโน้มกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มเศรษฐกิจกำลังพัฒนาแตกต่างกัน โดยพบว่ากลุ่มเศรษฐกิจลาตินอเมริกามีความเสี่ยงมากที่สุด เนื่องจากทั้งเสถียรภาพด้านต่างประเทศและด้านราคาอ่อนแอ ส่วนไทยนั้นเสถียรภาพอ่อนแอลงจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและเงินเฟ้อที่เร่งตัว แต่คาดว่าจะปรับดีขึ้นได้ในช่วงปลายปีนี้ ตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว

1. การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะยาวปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง EIC มองว่า ในระยะต่อไป อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย
โดยปัจจัยสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี คือ

2. การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุลของ Fed ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นได้อีก โดย EIC คาดว่า อัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อยในปีนี้ แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยได้ถูกสะท้อนไปในราคา (priced in) มากแล้ว

3. ทิศทางของอัตราผลตอบแทนในตลาดเงินโลกและไทยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ โดยการเปลี่ยนแปลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราผลตอบแทนสหรัฐฯ ถึง 80%

4. แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ที่คาดว่าจะปรับดีขึ้นจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี EIC มองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยจะไม่ปรับสูงขึ้นเร็วนัก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงในช่วงปลายปี และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะชะลอลง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่เพิ่มขึ้นเร็วนัก

การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ Fed จะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าในระยะสั้นในทิศทางเดียวกับสกุลเงินของเศรษฐกิจกำลังพัฒนาอื่น อย่างไรก็ดี คาดว่าเงินบาทจะกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีแนวโน้มกระตุ้นเงินทุนไหลเข้า และดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะกลับมาเกินดุล โดยในระยะสั้น เงินบาทอาจยังเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าเช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค โดยคาดว่าค่าเงินบาทจะอยู่ในช่วง 34.5-35.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจาก

1. การเร่งดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดของ Fed ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Rate differential) ระหว่างสหรัฐฯและประเทศต่าง ๆ ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง

2. ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความตึงเครียดจากสงครามรัสเซียยูเครน ส่งผลให้นักลงทุนปิดรับความเสี่ยงและเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

3. ดุลบัญชีเดินสะพัดไทยยังขาดดุลสูงในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 จากราคาพลังงานที่สูง ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ เงินเฟ้อที่ปรับสูงขึ้นขณะที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวมากนักถือเป็นอีกปัจจัยที่กดดันค่าเงินบาท

อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทในช่วงปลายปีมีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าในกรอบ 33.5-34.5 ต่อดอลลาร์สหรัฐ จาก

1. เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้น Portfolio flow จากนักลงทุนต่างชาติ

2. ดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มกลับมาเกินดุล จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมัน และค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มลดลง

โดยสรุป การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในรอบนี้เป็นไปตามที่ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ และ Fed จะยังมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ มีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งละ 75 และ 50 bps จึงทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอลงมากตั้งแต่ในปีนี้ และโอกาสที่เศรษฐกิจจะ soft landing ก็มีน้อยลง สอดคล้องกับมุมมองจากผู้ร่วมตลาดบางส่วนที่กังวลว่าอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในระยะต่อไป นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้นมากส่งผลให้ภาวะการเงินโลกรวมถึงไทยจะปรับตึงตัวขึ้น โดย 1. อัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินปรับสูงขึ้น 2. เงินทุนเคลื่อนย้ายจะผันผวนมากขึ้นและมีแนวโน้มไหลออกจากเศรษฐกิจกำลังพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจหลัก ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และ 3. สภาพคล่องในระบบการเงินโลกที่จะลดลง ส่งผลต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ด้านผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยนั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะยาวมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามอัตราผลตอบแทนในตลาดเงินโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินบาทก็จะเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่าในระยะสั้นจากการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และความเสี่ยงด้านสงคราม โดยคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 34.5-35.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่เงินบาทมีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าขึ้นอยู่ในกรอบ 33.5-34.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปลายปี จากเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นและดุลบัญชีเดินสะพัดที่คาดว่าจะกลับมาเกินดุล

บทวิเคราะห์โดย… https://www.scbeic.com/th/detail/product/Inflation-210622

ผู้เขียนบทวิเคราะห์

นายวชิรวัฒน์ บานชื่น (wachirawat.banchuen@scb.co.th) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส

นางสาวจงรัก ก้องกำชัย (jongrak.kongkumchai@scb.co.th) นักวิเคราะห์

นางสาวณิชนันท์ โลกวิทูล (nichanan.logewitool@scb.co.th) นักวิเคราะห์

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: ตลาดการเงินไทย นางสาวจงรัก ก้องกำชัย นางสาวณิชนันท์ โลกวิทูล นายวชิรวัฒน์ บานชื่น อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ เฟด เฟดขึ้นดอกเบี้ย

Continue Reading

Previous: Krungthai COMPASS ชี้ โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนโตรับ BCG economy
Next: ธ.ก.ส. จัดโครงการชำระดีมีคืนและโครงการลดดอกเบี้ยแก้หนี้ภาคครัวเรือน

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 23 พ.ย. 68

23/11/2025
สทนช. เฝ้าระวัง! น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง ภาคใต้ตอนล่าง ช่วงวันที่ 23-25 พ.ย.นี้ สทนช. เฝ้าระวัง! น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง ภาคใต้ตอนล่าง ช่วงวันที่ 23-25 พ.ย.นี้ 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สทนช. เฝ้าระวัง! น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง ภาคใต้ตอนล่าง ช่วงวันที่ 23-25 พ.ย.นี้

23/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568

23/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 22 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 22 พ.ย. 68

22/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568

22/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 21 พ.ย. 68

21/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568

21/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 พ.ย. 68

20/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568

20/11/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 พ.ย. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 พ.ย. 68

19/11/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568

19/11/2025
สลากสัญจรรอบหน้า 1 ธ.ค. 68 จังหวัดกำแพงเพชร สลากสัญจรรอบหน้า 1 ธ.ค. 68 จังหวัดกำแพงเพชร 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สลากสัญจรรอบหน้า 1 ธ.ค. 68 จังหวัดกำแพงเพชร

18/11/2025

China News

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม.

21/10/2025
LINEแชร์เลย! รถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในโลก CR450 เริ่มการทดลองใช้งานก่อนเปิดให้บริการบนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของจีน โดยสามารถทำความเร็วได้สูงสุดต่อขบวนถึง 453 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หนังสือพิมพ์ไซแอนซ์แอนด์เทคโนโลยีเดลี (Science... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

21/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

20/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

19/11/2025
กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง

18/11/2025
กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth” กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth”
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth”

18/11/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง

กบข. แนะ ข้าราชการเกษียณออมต่อเนื่อง

กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth”

กสิกรไทย ทรานส์ฟอร์ม K WEALTH สู่ “Your Future-Ready Wealth”

Energy Force

CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

CKPower กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง

10/11/2025
LINEแชร์เลย! นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)... อ่านต่อ

Politics

584765562_1406324100858247_3141478825053389534_n รัฐบาลหนู อยู่ไม่ไหว ยุบสภาธันวาคม 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

รัฐบาลหนู อยู่ไม่ไหว ยุบสภาธันวาคม

21/11/2025
S__89849894_0 ปชน.จับพิรุธ “รัฐบาลอนุทิน” เร่งรัดรับซื้อไฟฟ้า เติมกระสุนไปเลือกตั้ง 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

ปชน.จับพิรุธ “รัฐบาลอนุทิน” เร่งรัดรับซื้อไฟฟ้า เติมกระสุนไปเลือกตั้ง

20/11/2025
584552693_1440719324090379_3068688954646231354_n ‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘วราเทพ’ ขนทีมกลับค่ายแดง ปักธง ‘กำแพงเพชร’ ยกจังหวัด 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

‘เพื่อไทย’ เปิดตัว ‘วราเทพ’ ขนทีมกลับค่ายแดง ปักธง ‘กำแพงเพชร’ ยกจังหวัด

20/11/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

ธ.ก.ส. เปิดตัวระบบ EDMS ยกระดับประสิทธิภาพบริหารจัดการหนี้ ธ.ก.ส. เปิดตัวระบบ EDMS ยกระดับประสิทธิภาพบริหารจัดการหนี้ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ธ.ก.ส. เปิดตัวระบบ EDMS ยกระดับประสิทธิภาพบริหารจัดการหนี้

20/11/2025
มูลนิธิชาวปากพนังจัด “ปากพนังสังสรรค์” ครั้งที่ 51 ระดมทุนการศึกษา มูลนิธิชาวปากพนังจัด “ปากพนังสังสรรค์” ครั้งที่ 51 ระดมทุนการศึกษา 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

มูลนิธิชาวปากพนังจัด “ปากพนังสังสรรค์” ครั้งที่ 51 ระดมทุนการศึกษา

19/11/2025
“ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68 “ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

“ธนารักษ์” ส่งรถรับแลกเหรียญเคลื่อนที่ บริการประชาชน พ.ย. 68

05/11/2025
CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ย 7.25% เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • BUSINESS MOVEMENT

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68

27/10/2025

Recommend

ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา "คนละครึ่ง พลัส" ต่อร้านค้า ลุยดิจิทัล ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา “คนละครึ่ง พลัส” ต่อ ร้านค้าลุยดิจิทัล 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม.ไฟเขียวงบ 800 ล้าน พัฒนา “คนละครึ่ง พลัส” ต่อ ร้านค้าลุยดิจิทัล

18/11/2025
รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่ รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่ 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

รัฐบาลเตือน “คนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อเหล้า บุหรี่ ล็อตเตอรี่

30/10/2025
"คนละครึ่ง พลัส" วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง “คนละครึ่ง พลัส” วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

“คนละครึ่ง พลัส” วันแรกคึกคัก ร้านค้าร่วมโครงการกว่า 6 แสนแห่ง

29/10/2025
ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต

25/10/2025

Photo Stories

ซีพี ออลล์ เปิดเวทีปล่อยของประลองนวัตกรรม President Awards 2025 ปีที่ 18 ซีพี ออลล์ เปิดเวทีปล่อยของประลองนวัตกรรม President Awards 2025 ปีที่ 18 1 min read
  • PHOTO STORIES

ซีพี ออลล์ เปิดเวทีปล่อยของประลองนวัตกรรม President Awards 2025 ปีที่ 18

22/11/2025
CP ALL เปิดเวที Approval Process Excellence Awards 2025 CP ALL เปิดเวที Approval Process Excellence Awards 2025 1 min read
  • PHOTO STORIES

CP ALL เปิดเวที Approval Process Excellence Awards 2025

20/11/2025
EXIM BANK พาผู้ประกอบการดูงาน “ทรอปิคานา ออยล์” ต้นแบบแปรรูปมะพร้าวส่งออก EXIM BANK พาผู้ประกอบการดูงาน “ทรอปิคานา ออยล์” ต้นแบบแปรรูปมะพร้าวส่งออก 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK พาผู้ประกอบการดูงาน “ทรอปิคานา ออยล์” ต้นแบบแปรรูปมะพร้าวส่งออก

19/11/2025
กสิกรไทย จับมือ EDEX แนะศึกษาต่อในสหราชอาณาจักรมุ่งสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ กสิกรไทย จับมือ EDEX แนะศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร มุ่งสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย จับมือ EDEX แนะศึกษาต่อในสหราชอาณาจักร มุ่งสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ

19/11/2025
SME D Bank เยี่ยมชื่นชม 3 กิจการลูกค้าพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม SME D Bank เยี่ยมชื่นชม 3 กิจการลูกค้าพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม 1 min read
  • PHOTO STORIES

SME D Bank เยี่ยมชื่นชม 3 กิจการลูกค้าพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม

17/11/2025
CSR THAI CLUB จัดประชุมใหญ่–ลุยกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยและปลูกป่า CSR THAI CLUB จัดประชุมใหญ่–ลุยกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยและปลูกป่า 1 min read
  • PHOTO STORIES

CSR THAI CLUB จัดประชุมใหญ่–ลุยกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยและปลูกป่า

16/11/2025
สำนักงานสลาก สำนักงานสลากฯ มอบถุงยังชีพให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ต.บางตะไนย์ จ.นนทบุรี 1 min read
  • PHOTO STORIES

สำนักงานสลากฯ มอบถุงยังชีพให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม ต.บางตะไนย์ จ.นนทบุรี

16/11/2025
EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้าสร้างรายได้ชุมชน EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้าสร้างรายได้ชุมชน 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ผู้ส่งออก SMEs จำหน่ายสินค้าสร้างรายได้ชุมชน

14/11/2025
ไทยเครดิต จัดพิธีถวายความอาลัยแด่ “สมเด็จพระพันปีหลวง” ไทยเครดิต จัดพิธีถวายความอาลัยแด่ “สมเด็จพระพันปีหลวง” 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยเครดิต จัดพิธีถวายความอาลัยแด่ “สมเด็จพระพันปีหลวง”

14/11/2025
“ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์” ผนึกกำลัง กทม. และชุมชนสร้าง “CW Sustainable Art” “ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์” ผนึกกำลัง กทม. และชุมชนสร้าง “CW Sustainable Art” 1 min read
  • PHOTO STORIES

“ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์” ผนึกกำลัง กทม. และชุมชนสร้าง “CW Sustainable Art”

14/11/2025
กบข. กบข. ร่วมแชร์มุมมองการลงทุน ในงาน The 15th Annual Thailand Roundtable 1 min read
  • PHOTO STORIES

กบข. ร่วมแชร์มุมมองการลงทุน ในงาน The 15th Annual Thailand Roundtable

12/11/2025
กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025 1 min read
  • PHOTO STORIES

กสิกรไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่ จากเวที ASEAN Business Awards 2025

07/11/2025
EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK เปิดพื้นที่ให้ SMEs ขายสินค้า หนุนรายได้ชุมชน

31/10/2025
BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM คว้า CGR ดีเลิศระดับ 5 ดาวประจำปี 2568 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

30/10/2025
IMG_4504 คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท. 1 min read
  • PHOTO STORIES

คณะ “โค้ชการเงินมืออาชีพ” หรือ CMC by GSB เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้ ธปท.

30/10/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM