โรงงานยาสูบเปิดให้เช่า 3 ทำเลทองยาว 30 ปี
โรงงานยาสูบ หรือการยาสูบแห่งประเทศไทย มีที่ดินศักยภาพสูงกว่า 2,000 ไร่ สามารถนำมาพัฒนาเชิงธุรกิจได้ หลังจากรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงมากทั้งจากบุหรี่ต่างประเทศและบุหรี่เถื่อนที่ทะลักเข้าไทย โดยครึ่งปีแรกของปีนี้ กิจการของการยาสูบแห่งประเทศ (ยสท.) คาดว่า ขาดทุนเล็กน้อย แต่จะเริ่มมีกำไร 30-40 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 นี้
นายนพดล หาญธนสาร รักษาการแทนผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานของยาสูบใน ช่วงที่ผ่านมา ไม่ค่อยดีนัก ภายหลังจากที่กรมสรรพสามิตประกาศอัตราภาษีใหม่ 2 ครั้ง ทำให้รายได้ของโรงงานฯ ลดลง ประการแรกเกิดจากร้านค้าปลีก ไม่ขายบุหรี่ในราคาที่กำหนด แต่กลับขายในราคาแพงกว่าหรือเท่ากับบุหรี่นอกยี่ห้อคู่แข่ง และประการที่ 2 บุหรี่เถื่อนที่หนีภาษี และบุหรี่ปลอมทะลักเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในบางพื้นที่ เช่น 3 จังหวัดชายแดนใต้ คาดว่ามีบุหรี่ปลอมมากถึง 70% ส่วนบุหรี่ถูกต้องตามกฎหมายมีเพียง 30% เท่านั้น
ทั้งนี้ กิจการยาสูบในอดีต เคยมียอดการผลิตสูงถึง 47,000 ล้านมวนต่อปี มีรายได้นำส่งคลังปีละนับพันล้านบาท และหากนับรวมภาษีที่กรมสรรพสามิตจัดเก็บด้วยแล้ว รายได้รวมทั้หมดจะพุ่งขึ้น 10,000-20,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว ยอดการผลิตลดลงแต่ระดับ 10,000 ล้านมวนต่อปี ขณะที่ รายได้จากภาษีบุหรี่ก็ลดวูบเหลือเพียง 5,000 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ยสท. ได้เปิด 3 ทำเลทองเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ ยสท.ใน กทม.และต่างจังหวัด ออกประมูลให้เอกชนเช่าระยะยาว 30 ปี ประกอบด้วย แปลงที่ 1 “โกดัง ร.ย.ส. 1” ถนนเจริญกรุง ติดแม่น้ำเจ้าพระยา กทม. เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่เศษ อดีตเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตยาสูบแห่งแรก ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านธุรกิจที่หาได้ยากในปัจจุบัน ส่วนอีก 2 แปลง อยู่ในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ “แปลงสถานีใบยาแม่กรณ์ (เดิม)” เนื้อที่ประมาณ 14 ไร่ ใจกลางเมืองเชียงราย ย่านธุรกิจการค้า และ “แปลงสถานีใบยาเวียงพาน” อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เนื้อที่ประมาณ 75 ไร่เศษ ริมถนนพหลโยธิน เป็นที่ดินแปลงขนาดใหญ่ใกล้กับด่านการค้าชายแดนเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สาย
ทั้งนี้ ที่ดินทั้ง 3 แปลงนี้ ถือว่า เป็นทำเลศักยภาพสูงเหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการในหลายรูปแบบ มีความคุ้มค่ากับการลงทุนหากเทียบกับผลตอบแทนที่จะได้รับในระยะยาว ซึ่งในการเปิดประมูลครั้งนี้ ขอให้นักลงทุนที่สนใจจะเข้าร่วมประมูลมีความเชื่อมั่นด้านความโปร่งใสตรวจสอบได้ เนื่องจาก ยสท. ได้จัดให้มีการลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ร่วมกัน 3 ฝ่าย ระหว่าง ยสท. ผู้เข้าร่วมประมูล และผู้สังเกตการณ์จาก องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ซึ่งจะเข้าร่วมสังเกตการณ์ตลอดระยะเวลาของการประมูล โดยมีกำหนดจัดกิจกรรมทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market sounding) ในวันที่ 28 มิ.ย.2565 และจะขายเอกสารการประมูลประมาณเดือน ส.ค.2565 ยื่นข้อเสนอภายในเดือนพ.ย.2565 ซึ่ง ยสท. จะพิจารณาผู้ชนะการประมูลจากรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ มูลค่าการลงทุน ผลประโยชน์ตอบแทนที่ ยสท.จะได้รับและประโยชน์ต่อพื้นที่และชุมชนโดยรอบ โดยคาดว่าที่ดินทั้ง 3 แปลงรวมกันคาดว่า จะเพิ่มรายได้ให้แก่ ยสท.ไม่น้อยกว่า 1,300 ล้านบาท