กรอ. จี้ โรงงานใช้ 3 อาร์ ช่วยประหยัดน้ำ
กรอ.ขอความร่วมมือโรงงานทั่วประเทศ ประหยัดน้ำ ป้องกันน้ำขาดแคลนช่วงหน้าแล้ง เน้นใช้นโยบาย 3 อาร์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ พร้อมส่งทีมออกตรวจเข้มป้องกันโรงงานปล่อยน้ำเสีย
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้แจ้งขอความร่วมมือไปยังโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศให้ช่วยกันประหยัดการใช้น้ำในภาคอุตสาหกรรมและลดปริมาณน้ำทิ้งจากโรงงานเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ด้วยการนำนโยบาย 3 อาร์ (รีดิวซ์-Reduce, รียูส-Reuse, รีไซเคิล-Recycle) ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในระดับสูงสุด คือ ลดปริมาณการใช้หรือใช้น้ำน้อยเท่าที่จำเป็น การหมุนเวียนใช้น้ำซ้ำ และการบำบัดเพื่อนำน้ำมาใช้ใหม่ ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดน้ำแล้วยังเป็นการส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกในการช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย
“ตอนนี้อยากฝากถึงผู้ประกอบการโรงงานว่าช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้ง ปริมาณน้ำมีน้อย อยากให้ช่วยกันดูแลการประกอบกิจการไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงประชาชนด้วยว่า หากพบเห็นความผิดปกติเกี่ยวกับโรงงานที่อาจก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม สามารถร้องเรียนได้ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือที่สายด่วนกรมโรงงานอุตสาหกรรม 1564 โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมยินดีที่จะออกไปตรวจสอบและดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย” นายทองชัยฯ กล่าว
ปัจจุบันกรมโรงงานอุตสาหกรรมยังมีการเผยแพร่คู่มือเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านเว็บไซต์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า มีโรงงานจำนวนมากให้ความร่วมมือ นำข้อมูลจากคู่มือไปปฏิบัติ ทำให้เกิดการบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายภายในโรงงาน โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2561 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโรงงาน พบว่า โรงงาน 92 ราย มีปัญหาเรื่องน้ำเสียที่เกิดจากการประกอบกิจการ กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้สั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้ว 91 ราย เหลืออีก 1 ราย ที่อยู่ในระหว่างการปรับปรุงแก้ไข ส่วนในปี 2562 พบว่า มีปัญหาเรื่องน้ำเสีย 21 ราย และปัจจุบัน กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนินการแก้ปัญหาแล้ว 17 ราย เหลืออีก 4 รายอยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามอย่างใกล้ชิด
“กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีแผนในการเข้าไปตรวจสอบอย่างเข้มงวด และให้ความรู้กับโรงงานโดยตลอด ซึ่งในปัจจุบันทางกรมฯ ได้จัดทีมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการระบายน้ำทิ้งออกจากโรงงานเกินเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดก็จะสั่งการให้โรงงานดำเนินการปรับปรุงแก้ไข หากกรณีที่เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงจะให้โรงงานหยุดประกอบกิจการชั่วคราว เมื่อครบกำหนดแล้วพบว่าโรงงานยังไม่มีการดำเนินการแก้ไข จะสั่งให้หยุดประกอบกิจการอย่างถาวรพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย” นายทองชัยฯ กล่าว
นายทองชัยฯ กล่าวต่อว่า สถานการณ์น้ำในปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหรือในเขื่อนต่าง ๆประมาณ 50,000 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 59% ของน้ำเต็มความจุ คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ในภาคอุตสาหกรรมจะมีการใช้น้ำประมาณ 720 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมจะมีสัดส่วนการใช้น้ำประมาณ 3% ภาคเกษตรกรรม 62% และอุปโภค บริโภค 11% อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าฝนจะตกตามปกติในช่วงปลายเดือน พ.ค. นี้