ธ.ก.ส. ชู Go Green หนุนเกษตรยั่งยืน
ธ.ก.ส. วางยุทธศาสตร์ ปี’62 มุ่งสู่องค์กรสีเขียว Go Green หนุนยุทธศาสตร์พัฒนาเกษตรยั่งยืน หวังยกระดับการผลิตที่ปลอดภัยตามมาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของตลาดและสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค พร้อมขยายช่องทางการตลาด ให้กับเกษตรกร
แผนยุทธศาสตร์ ปี 2562 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ เกษตร (ธ.ก.ส.) ที่จะนำไปขับเคลื่อนโครงการอาหารปลอดภัย จากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค ด้วยหวังจะสร้างมาตรฐานใหม่ สอดรับกระแสความต้องการของผู้บริโภค และตลาด ไม่เฉพาะแค่ในไทย
ล่าสุด นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. พร้อมผู้บริหารระดับสูง ร่วมแถลงข่าวถึงยุทธศาสตร์ข้างต้น ว่า ธ.ก.ส.พร้อมขับเคลื่อนโครงการอาหารปลอดภัยฯ เริ่มจากการสร้างจิตสำนึกให้กับเกษตรกร ด้วยโครงการสร้างความเข้มแข็งระดับครัวเรือน (โครงการ 459 ) ซึ่งเป็นกระบวนการพัฒนาที่ น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับ ใช้มีความหมายว่า “เดินออก จากบ้าน 4 – 5 ก้าว ก็มีอาหารปลอดภัยไว้กิน” ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากโครงการปลูกผักเพื่อเป็นอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียน ก่อนขยายไปสู่ชุมชนในระดับที่ใหญ่ขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อมีผลผลิตเหลือบริโภค ก็สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ โครงการนี้ ธ.ก.ส.เริ่มไปแล้ว ใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง จำนวน 27 ชุมชน ซึ่งบางชุมชน สามารถนำผลผลิตไปจำหน่ายได้ที่ห้าง Modern Trade ได้ นอกจากนี้เพื่อให้ เกษตรกรตระหนักถึงการผลิตอาหารที่ปลอดภัยที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ธ.ก.ส. มีแผนร่วมกับ อ.ส.ม. เพื่อ ตรวจสารพิษในร่างกายของเกษตรกรและตรวจสาร ตกค้างในผลผลิต อีกด้วย
นอกจากนั้น ธ.ก.ส.จะต่อยอดชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงที่ต้องการผลิต อาหารปลอดภัย ที่ได้ให้การสนับสนุนเพื่อให้มีการผลิตที่ ได้มาตรฐานต่างๆ ได้แก่ 1.มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) เป้าหมาย เกษตรกร 2,000 ราย 200 ชุมชน 2.มาตรฐานการ ตรวจรับรองคุณภาพแบบมีส่วนร่วมของชุมชน(PGS) เป้าหมาย เกษตรกร 1,500 ราย 150 ชุมชน และ 3.มาตรฐาน เกษตรอินทรีย์ไทย (Organic Thailand) เป้าหมายเกษตรกร 500 ราย 50 ชุมชน
รวมถึงสนับสนุน Smart Farmer ทายาทเกษตรกรให้มีการรวมกลุ่มและสร้าง เครือข่ายผู้ผลิตอาหาร ปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ โดยประสานความร่วมมือกับ หน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กรมวิชาการเกษตร เป็นต้น โดยมีแผนพัฒนาให้สหกรณ์การเกษตรเป็น คณะผู้ตรวจประเมิน และมีความพร้อมสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อสร้างการ รับรู้และความมั่นใจ ให้กับเครือข่ายผู้บริโภค
“โครงการเกษตรหรืออาหารปลอดภัยนี้ จะขับเคลื่อนผ่านกระบวนการ ของ สหกรณ์การเกษตร เพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) สหกรณ์การเกษตร (สกก.) และ บริษัทไทยธุรกิจ เกษตร จำกัด (TABCO) ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง ในการรวบรวมสินค้า การแปร รูปสร้างมูลค่าเพิ่มและการกระจายสินค้าจาก เกษตรกรผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค และธ.ก.ส. จะสนับสนุนสินเชื่อให้สหกรณ์และกลุ่ม วิสาหกิจชุมชน รวบรวม แปรรูปผลผลิต เช่น สร้างโรงคัดตัดแต่งผลผลิต จัดซื้อ ห้องเย็น และรถขนส่ง เป็นต้น “
นายอภิรมย์ ยังกล่าวอีกว่า Go Green ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ ธ.ก.ส.จะดำเนิน งานควบคู่กับแนวทางการปฏิรูปภาคการเกษตรไทย คือ ปรับการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรเพื่อลดต้นทุน เปลี่ยนการผลิตให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ และให้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมถึงพัฒนาสหกรณ์การเกษตร และผู้ประกอบการ SMEs เป็นหัวขบวนนำการเปลี่ยนแปลงโดยสนับสนุนให้มีการผลิตการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่มูลค่าสินค้าเกษตร
ทั้งนี้ การก้าวสู่ Go Green เป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมที่ยั่งยืน สามารถตอบโจทย์สำคัญในเรื่องของการดูแลสุขภาพทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค ไปพร้อมกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่ง ธ.ก.ส.พร้อมสนับสนุนแหล่งเงินทุนและความรู้ในการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อให้เกษตรกรมีภูมิคุ้มกันและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ชุมชนมีความ เข้มแข็งและมีรายได้เพิ่มจากผลผลิตที่มีความปลอดภัยและมีมาตรฐานรองรับ ส่งผลถึงความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนของภาคเกษตรไทย.